KS Daily View 19.08.2025 >>> ตลาดมอง Outlook 2H25 ชะลอตัว แม้กำไรบริษัทจดทะเบียน/ GDP 2Q25 ดีกว่าคาด มองกรอบ SET วันนี้ 1,225-1,255 จุด แนะนำ SAWAD และ CK
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 ลดลง 0.01%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.03%, แต่ Dow Jones ลดลง 0.08% โดยที่นักลงทุนรอรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการปลีกรายใหญ่อย่างวอลมาร์ท, โฮมดีโป, ทาร์เก็ต, ทาร์เก็ต และการประชุมสัมมนาประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เมืองแจ็กสันโฮล
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,242.31 จุด ลดลง 17.11 จุด (-1.36%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มขนส่ง ในวันนี้ เราคาด SET Index อยู่ในกรอบ 1,225-1,255 จุด แม้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนและ GDP ของไทยใน 2Q25 จะออกมาดีกว่าคาดและ สภาพัฒน์ได้มีการปรับประมาณการGDP ปี 2025 ขึ้นแต่ตลาดเลือกที่จะมองข้ามไปยัง 2H25ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากภาษีนำเข้าของสหรัฐ หนี้เอกชนสูง–สินเชื่อเข้มงวด การท่องเที่ยวชะลอ และความผันผวนการค้าโลก ในขณะเดียวกันภาพในต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา เนื่องจากตลาดรอทิศทางเศรษฐกิจจากเฟด ในประชุมสัมมนาประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เมืองแจ็กสันโฮล ในส่วนของกลยุทธ์ในการลงทุน ยังคงมุ่มเน้นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบใน 2H25 อย่าง SAWAD และ CK
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยแม้เศรษฐกิจจีนออกมาน่าผิดหวัง แต่จะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในระดับปานกลางและเจาะจงเป้าหมาย เพื่อประคองเศรษฐกิจและรับมือภาวะเงินฝืด แม้ว่ารายงานดังกล่าวออกมาหลังข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค.ของจีนออกมาอ่อนแอ ทั้งยอดค้าปลีกโตเพียง 3.7% การผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 5.7% และการลงทุนสินทรัพย์ถาวร 7 เดือนแรกโตแค่ 1.6% ต่ำกว่าคาด มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับPTTGC IVL IRPC SCC SCGP
- สภาพัฒน์รายงานการเติบโต GDP ของไทยใน 2Q25 ที่ 2.8% YoY ดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ 2.5% YoY เนื่อง GDP ขยายตัวดีกว่าคาด และครึ่งปีแรกขยายตัวแล้ว 3% สภาพัฒน์ฯ ปรับคาด GDP ปี 2025 จาก 1.3-2.3% (1.8% ค่ากลาง) เป็นอยู่ในกรอบ 1.8-2.3% (2.0% ค่ากลาง)อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP ไทยที่ออกมาดีกว่าคาดอาจไม่ได้สะท้อนการขยายตัวดีในวงกว้างทุกกลุ่ม โดยกลุ่มCOMMERCE และ TOURISM อาจยังเผชิญแรงกดดันเชิงลบจากการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว และตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่กลุ่ม AUTO อาจเห็นตลาดปรับมุมมองเชิงบวกมากขึ้นในเชิง bottom out และการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีมองเป็นบวกต่อกลุ่ม BANK และ IE
- บลูมเบิร์กรายงานว่า เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากโรงงาน Arctic LNG 2 ของรัสเซีย ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร เริ่มทยอยออกเดินทางสู่เอเชีย โดยล่าสุดมีอย่างน้อย 4 ลำรวมถึง Iris และ Voskhod ที่มุ่งหน้าไปเอเชียเหนือผ่านเส้นทางทะเลอาร์กติก หลังหยุดนิ่งมาหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ Arctic LNG 2 เคยหยุดส่งออกตั้งแต่ ต.ค. ปีก่อน เพราะหาผู้ซื้อไม่ได้และติดปัญหาน้ำแข็ง แต่เพิ่งกลับมาขนถ่ายสินค้าในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกกับGPSC BGRIM
- SC ร่วมมือกับ IHG Hotels & Resorts เปิดตัวโรงแรมใหม่ “โวโค กรุงเทพฯ สยาม” มูลค่า 2,200 ล้านบาท กำหนดเปิดให้บริการปี 2029 เพื่อต่อยอดธุรกิจรายได้ประจำ ตั้งเป้าดันสัดส่วนรายได้เกิน 20% และขยายพอร์ตโรงแรมให้มีห้องพักรวมกว่า 2,000 ห้อง สร้างรายได้มั่นคงและเสริมการเติบโตระยะยั่งยืนในอนาคต
- กระทรวงการคลังและกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเปิดตัวโครงการ “ทัวริสต์ ดิจิเพย์” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถนำคริปโทฯ แลกเป็นเงินบาทและใช้จ่ายผ่านระบบอีมันนี่ในไทย คาดช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคนละ 5,000 บาท หรือปีละไม่ต่ำกว่า 1.75 แสนล้านบาท โดยจะเริ่มใช้ได้ในไตรมาส 4 นี้ทันฤดูกาลท่องเที่ยว มองเป็นบวกกับกล่มท่องเที่ยว อย่าง CENTEL SHR AAV BA ERW
Daily pick
SAWAD : ราคาพื้นฐาน 25.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SAWAD จากผลประกอบการใน 2Q25 ที่ดีกว่าคาดราว 17% โดยหลักมาจากการกลับรายการ impairment ของสินทรัพย์รอการขายซึ่งเป็นผลมาจากระดับราคารถมือสองที่ปรับตัวดีขึ้นและส่งผลให้ขาดทุนจากการขายรถยึดลดลงเช่นกันตามอุตสาหกรรม พร้อมกับได้รับผลบวกจากการเร่งจัดการ asset quality ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้เราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของ loan growth โดยเฉพาะใน asset title portfolio ที่สามารถกลับมาเติบโตได้ QoQ ภายหลังติดลบในช่วง 3 ไตรมาสมา เราคาดการณ์ด้วยปันผลที่ระดับ 5% และ valuation ที่ถูกสุดในกลุ่มพร้อมการฟื้นตัวในอนาคตจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อราคาหุ้นได้
CK : ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องกับ CK ภายหลังรัฐสภามีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ overhang เรื่องของความเสี่ยงทางการเมืองต่องบประมาณหยุดชะงักหมดไปเราคาดว่าจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มก่อสร้าง และนอกจากนี้งบ CK ที่ออกมาดีกว่าที่เราคาดราว 23.7% มาจากรายได้และอัตรากำไรที่สูงกว่าคาดนอกจากนี้ยังได้ผลเชิงบวกจาก CKP ที่อยู่ในฤดูน้ำเช่นกัน เราคาดรายได้ใน 2H25 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่และคาดว่าจะสามารถได้โครงการใหม่เช่น รถไฟความเร็วสูงไทยจีนเฟส 2 และ โครงการทางด่วนdouble-deck เช่นกัน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตามรายงานใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน (Building Permits) ของสหรัฐ เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.387 ล้านหลัง ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.393 ล้านหลัง ต่อด้วยการรายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (Housing Starts) ของสหรัฐ เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.300 ล้านหลัง ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.321 ล้านหลัง
วันพุธ ติดตาม Loan prime rate ของธนาคารกลางจีนระยะเวลา 1 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.0% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า และ Loan prime rate อายุ 5 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งสุดท้าย (EU CPI) เดือน ก.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.0% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วยรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC minute)
วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.5 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 49.8 จุด ปิดท้ายด้วย จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.25 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.24 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation)เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY ลดลงเดือนก่อนหน้าที่ +3.3% YoY ด้วยถ้อยคำแถลงการณ์ของประธานเฟดอย่าง Jerome Powell ในงาน Jackson Hole ที่ไวโอมิง ในแนวโน้มเศรษฐกิจและกรอบนโยบายการเงิน