การฟื้นตัวของดัชนีอาจเป็นเพียงระยะสั้นมากกว่า
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 16 จุด (+0.04%) แต่ Nasdag, S&P500 ปิดแดนลบเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่ม Tech ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปดบวก 1.6% ตอบรับสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาดการณ์
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานสต๊อกน้ำมันดิบพบว่าลดลง 6 ล้านบาร์เรลลดลงมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.8 ล้านบาร์เรล ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเปิดเผยผลประชุม FED (ครั้งก่อน) พบว่าคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม (9 : 2) ส่วนคณะกรรมการ 2 ท่านเห็นว่าควรลดดอกเบี้ยเพราะกังวลกับตลาดแรงงาน แต่อย่างไรก็ตามคณะกรรมการส่วนใหญ่ยังประเมินว่าความเสี่ยงเงินเฟ้อจากภาษีมีน้ำหนักมากกว่าการอ่อนแรงของตลาดแรงงาน หลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่าหลายๆ สินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัวไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนว่านักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักใดๆ มากนักกับปัจจัยข้างต้น เพราะกำลังรอดูประชุม Jackson Hole ในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย แต่หากเป็นปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ดัชนี PMI เบื้องต้นของสหรัฐฯ (Flash) และของฝั่ง EU รวมไปถึงยอดขายบ้านมือสอง Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 3.92 ล้านหลังคาเรือน
สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้พบว่า SET ฟื้นตัวขึ้นมาบวก 1% ได้แรงหนุนหลักที่เด่นชัดจากกลุ่มปีโตรเคมี (SCC PTTGC PTT) หลังมีรายงานออกมาว่าทางเกาหลีใต้ประกาศว่าจะร่วมกันลดอัตราการดำเนินการของโรงงาน แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะปัจจุบันของการผลิตปีโตรเคมียังเป็นลักษณะ Over Supply (กำลังการผลิตส่วนเกิน) ทำให้ราคาส่วนต่างปีโตรเคมียังฟื้นตัวแบบจำกัด จึงมองการฟื้นตัวของกลุ่มนี้เป็นเพียงระยะสั้นมากกว่า ประกอบกับเศรษฐกิจโลกยังไม่มีสัญญาณพื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ และหลังจากนี้เตรียมเผชิญกับผลกระทบจากนโยบายภาษีผสานกับส่งออกทั่วโลกจะเริ่มชะลอลงเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจทั้งโลก
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1240 – 1260 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่แนะเพิ่มพอร์ตการลงทุน เพราะตลาดยังดูไร้ปัจจัยใหม่ ประกอบกับสัปดาห์หน้าประเทศไทยจะมีความเสี่ยงทางการเมืองที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาในรูปแบบไหน อาจจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนระยะสั้นเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ กลุ่ม ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT ERW) มีรายงานว่าจะเตรียมกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการสนับสนุนค่าเครื่องบินในประเทศ รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) หุ้นปันผลระหว่างกาลที่น่าสนใจ (SCB TACC)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
ผลประกอบการใน 2H25 เติบโตลูงกว่าใน 1H25 เนื่องจากมีแนวโน้มได้รับผลบวกจากภาระดอกเบี้ยลดลง ต่อเนื่อง ขณะที่ใน 4Q25 โรงแรมหลักในไทยที่ปิดปรับปรุงจะกลับมาเริ่มเปิดให้บริการช่วงเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศมัลดีฟส์ใหม่ทะยอยหมุน Occupancy เติบโตแข็งแกร่ง
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 78.00 บาท)
Valuation ที่น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายที่ราว 15xPE 25E ต่ำกว่าคาเฉลี่ยในอดีต พร้อมด้วยผลตอบแทนเงินปันผลคาดหวังระดับ 3% โดยรายงานกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 6.8 พันล้านบาท (+9%YoY) หลังตัดรายการพิเศษมีกำไรปกติ 7 พันล้านบาท (+14%YoY, 7%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาดหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 30 bps YoY