เก่งหลังเกมส์ 

SET Index ลดลง 3.34 จุด (-0.27%) ปิดที่ระดับ 1,245 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.88 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 251 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 205 บริษัท) ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบ นักลงทุนสลับเก็งกำไรเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มสายการบิน (THAI, AAV, BA), กลุ่มสื่อสาร (TRUE, ADVANC), และ กลุ่มธนาคาร (KBANK, KTB, SCB) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นประคองดัชนี คือ กลุ่มปิโตรฯ (PTTGC, IVL, SCC) และ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA, KCE) 

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

THAI (-11.11%) Over value ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงเกินมูลค่าในเชิงปัจจัยพื้นฐาน (ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.30 บาท) ประกอบกับวันนี้ราคาหุ้นหลุดแนวรับเส้นค้าเฉลี่ย 10 วัน ที่ระดับ 13 บาท กดดันจิตวิทยาการลงทุน นักวิเคราะห์ของเราให้ราคาเหมาะสม THAI ที่ 7.65 บาท

SAPPE (-14.01%) Opp day & Analyst meeting โทนเป็นลบแนวโน้ม 3Q25F ไม่ดี รายได้คาดว่าจะชะลอตัว qoq สวนทางกับที่เราและตลาดคาดว่าจะปรับขึ้น q-q และ y-y เนื่องจากเป็น High season ในตลาดต่างประเทศซึ่งมียอดขายคิดเป็น 80% ของ SAPPE คำแนะนำในเชิงพื้นฐานคงคำแนะนำ ถือ เป้า 2025F ที่ 40 บาท

PTTGC (+14.75%), IVL (+9.3%), SCC (+5.09%) Outperform ตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 รับกระแส จีน และ เกาหลีใต้ ออกมาตรการคุมกำลังการผลิตส่วนเกิน (Anti Involution) เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์ประเมิน upside จากมาตรการดังกล่าว คาดราคาหุ้นในกลุ่มจะกลับไปซื้อขายใกล้เคียงกับ Valuation ในปี 2022 ซึ่งเป็นระดับราคาก่อนที่ธุรกิจปิโตรฯ จะเข้าสู่ช่วง down cycle โดย PTTGC จะมีกรอบราคาเป้าหมายประมาณ 31-39 บาท, SCC 235-341 บาท และ IVL 18 – 24 บาท (อิง Historical PBV ที่ -1 ถึง -1.5SD) 

DELTA (+1.03%), HANA (+7.91%), HANA (+1.90%) ดักเก็งกำไรก่อนกระทรวงพาณิชย์ไทยจะรายงานยอด ส่งออก/นำเข้า เดือน ก.ค. ในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้ คาดยอดส่งออกชิ้นส่วนฯ ดีต่อเนื่อง อิงจากยอดส่งออกเกาหลีใต้ในช่วง 20 วันแรกของเดือน ก.ค. +7.6%y-y โดยมียอดส่งออกชิ้นส่วนฯ โตเด่นสุด +29.5%y-y

- Advertisement -