รอติดตาม Jackson Hole คืนนี้
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 152 จุด (-0.3%) หลังจากประธาน FED อาจส่งสัญญาณเชิงเข้มงวดในการประชุมคืนนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.2% ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศตัวเลข PMI (ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ) ทั้งภาคผลิตและภาคบริการพบว่ามากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้และกลับมาเกินกว่าระดับ 50 พร้อมกับยอดขายบ้านมือสองที่ 4.01 ล้านหลังคาเรือนมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.9 ล้านหลังคาเรือน ตัวเลขที่รายงานมากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้เริ่มเห็นการปรับขึ้นต่อเนื่องของ US Bond Yield และค่าเงิน Dollar กลับมาแข็งค่า กดดันเงินบาทอ่อนค่าทดสอบระดับ 32.6บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ล่าสุด CME FED Watch ให้น้ำหนักที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนเหลือเพียง 75% จากก่อนหน้าที่ระดับ 90% มองเป็นปัจจัยกดดันต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ โดยวานนี้ขายสุทธิราว 2.8 พันล้านบาท และหากเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจะยิ่งเสี่ยงถูกขาย ปัจจัยสำคัญคืนนี้รอติดตามประชุม Jackson Hole (ประชุมนโยบายทางเศรษฐกิจประจำปีของ FED) โดยเฉพาะการแถลงของประธาน FED ที่มีกำหนดแถลงในคืนนี้ ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ช่วงหลังๆ มานี้เริ่มมีสัญญาณแข็งแกร่งมากขึ้น จากการรายงานดัชนี PPI หรือต้นทุนผู้ผลิตที่สูงขึ้นผสานกับเมื่อคืน PMI เกินกว่าระดับ 50 และมองไปยังข้างหน้าจะเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนภาษีนำเข้ารอบใหม่ที่สูงขึ้นจะยิ่งกดดันเงินเฟ้อ จึงอาจเป็นไปได้ที่ถ้อยแถลงประธาน FED คืนนี้ไม่น่าผ่อนคลายเท่าใดนัก ซึ่งจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำ และตราสารหนี้
ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่นักลงทุนรอติดตามพัฒนาการการเมืองไทยในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะการพิจารณาของศาลเกี่ยวกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของผู้นำคนปัจจุบันว่าจะหลุดหรือไม่ หากหลุดจากตำแหน่งก็จำเป็นจะต้องหาคนใหม่และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นท่านไหนหรือนโยบายต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่
วันนี้ประมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1235 – 1250 ปัจจัยหนุนเริ่มหมดและเริ่มมีปัจจัยกดดัน อาทิ เงินบาทที่อ่อนค่า ประกอบกับการเข้มงวดจาก FED ที่อาจเผชิญในคืนนี้ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่แนะเพิ่มพอร์ตการลงทุนด้วย Valuation ไม่น่าสนใจ ผสานกับเสี่ยงปรับฐานต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นอาจเลือก Trading ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นของ Bond Yield กลุ่มส่งออก (CPF TU ITC) ปัจจัยหนุนเงินบาทอ่อนค่าและผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยไม่เยอะมากนัก
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 137.00 บาท)
กลยุทธ์ใน 2H25 เน้นดูแลคุณภาพสินเชื่อ และควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อลด Cost to income ratio (CIR) ชดเชยผลกระทบจากสินเชื่อที่ชะลอตัว แม้มองว่าเป้าหมายลด CIR เหลือราว 35% ค่อนข้างท้าทายเพราะรายได้ที่ฝันผวนล้อกับเศรษฐกิจ แต่เราชอบที่ SCB มุ่งมั่นในการเพิ่ม ROE
CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.00 บาท)
ผลประกอบการงวด 2Q25 ออกมาทะลุ 10,000 ล้านบาท จากผลดีของราคาสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งที่ไทยและเวียดนาม รวมกับต้นทุนการเลียงที่ลดลงหนุนกำไรขั้นต้นสูงถึง 19.8% ขณะก็แนวโน้มในช่วง 2H25 แม้ราคาสุกรจะลดลง แต่ถูกชดเชยจากต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง ทำให้คาดว่าระดับความสามารถในการทำกำไรจะยังอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง