KS Daily View 02.09.2025 >>> การเมืองเลือกนายกฯ ยังไม่แน่ชัด แนะลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและแนวโน้มรายได้ฟื้นตัวใน 3Q25 กรอบ SET วันนี้ 1,230-1,260 จุด แนะนำ TOP และ CK

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องจากเป็นวันแรงงาน

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,244.48 จุด เพิ่มขึ้น 7.87 จุด (+0.64%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มอสังหา, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,230-1,260 จุด จากปัจจัยในประเทศยังคงไม่มีความแน่ชัดโดยเฉพาะการเมืองในการเลือกนายกรัฐมนตี ในส่วนงบประมาณประจำปี 2569 จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ได้ผ่านวาระ 2 และ 3 ไปแล้ว อย่างไรก็ตามกลุ่ม Global play อย่างพลังงานอาจเห็นการปรับตัวขึ้นได้ หลัง supply ในรัสเซียชะงักหลังมีการโจมตีต่อเนื่องจากยูเครนต่อหลายโรงกลั่นในรัสเซียส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของโรงกลั่นราว 17% หรือ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและแนวโน้มของรายได้ฟื้นตัวใน 3Q25 อย่าง TOP และ CK

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. เจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ยืนยันว่ารัฐบาลทรัมป์ยังเดินหน้าเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้า แม้ศาลอุทธรณ์ชี้ว่ามาตรการเก็บภาษีมิชอบ โดยย้ำว่าข้อตกลงต่าง ๆ ยังดำเนินต่อไป ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุสหรัฐมีแผนสำรอง เช่น ใช้มาตรา 338 กฎหมายการค้าปี 1930 ที่ให้อำนาจเก็บภาษีนำเข้าสูงสุด 50% ขณะที่ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทำเนียบขาว มั่นใจศาลฎีกาซึ่งเสียงส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะสนับสนุนนโยบายทรัมป์
  1. กลุ่มฮูตีแถลงว่าได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลใส่เรือบรรทุกน้ำมัน Scarlet Ray ในทะเลแดงซึ่งมีความเชื่อมโยงกับอิสราเอลเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าจะดำเนินการโจมตีต่อไปจนกว่าสงครามกาซาจะยุติ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงสามวันหลังอิสราเอลโจมตีกรุงซานา สังหารนายกฯ และรัฐมนตรีฮูตีหลายราย มองเป็นบวกกับ RCL และ PSL
  1. ยูเครนยังคงใช้โดรนโจมตีโรงกลั่นและท่อส่งน้ำมันรัสเซียหลายแห่งต่อเนื่อง โดยสรุปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การโจมตีส่งผลให้กำลังการกลั่นหยุดชะงักราว 17% หรือ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โรงกลั่นสำคัญอย่าง Syzran, Krasnodar, Volgograd, Saratov, Novokuibyshevsk และ Ryazan ถูกไฟไหม้และต้องหยุดผลิต ขณะที่ท่าเรือส่งออก Ust-Luga ลดกำลังทำงานลงครึ่งหนึ่ง เหตุโจมตีเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการผลิตและส่งออกพลังงานของรัสเซียมองเป็นบวกกับ TOP SPRC BSRC BCP
  1. ซีเรียส่งออกน้ำมันดิบหนัก 600,000 บาร์เรลจากท่าเรือตาร์ทุสเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังยุคบาชาร์ อัล-อัสซาดถูกโค่นอำนาจเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยรัฐบาลใหม่นำโดยกลุ่มอิสลามิสต์พยายามฟื้นเศรษฐกิจ การส่งออกครั้งนี้ขายให้ B Serve Energy ซึ่งเชื่อมโยงกับ BB Energy และขนส่งโดยเรือ Nissos Christiana หลังสหรัฐฯได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเปิดทางให้บริษัทอเมริกันลงทุนด้านพลังงาน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับ PTTEP
  1. SAMART เปิดเผยว่า บริษัทย่อย เทด้า จำกัด (TEDA) ได้รับงานก่อสร้างใหญ่ 2 โครงการ ได้แก่ สถานีไฟฟ้า Indoor GIS ระบบ 115/11 เควี และสายส่ง 115 เควี ให้บริดจ์ ดาต้า เซ็นเตอร์ไอไอไอ ร่วมกับ PEA มูลค่า 685.5 ล้านบาท และโครงการสถานีไฟฟ้าแรงสูง 500 kV พนมสารคาม (GIS)พร้อมปรับปรุงสถานีไฟฟ้าแรงสูงปลวกแดงและวังน้อยของ กฟผ. มูลค่า 1,257.1 ล้านบาท โดยทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารเพื่อทำสัญญาและมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 24 เดือน

Daily pick

TOP: ราคาพื้นฐาน 36.50 บาท

เก็งการปรับตัวขึ้นของค่าการกลั่นหลัง supply ในรัสเซียชะงักหลังมีการโจมตีต่อเนื่องจากยูเครนต่อหลายโรงกลั่นในรัสเซียส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของโรงกลั่นราว 17% หรือ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันมองว่าแนวโน้มกำไรใน 3Q25 อาจปรับตัวขึ้นYoY ได้จาก inventory loss ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับ 3Q24 โดยราคาน้ำมัน QTD ปรับตัวลดลง -0.77% เทียบกับ 3Q24 ที่ปรับตัวลดลง -16.40% จากไตรมาสที่ผ่านมา

CK: ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท

เราแนะนำเก็งกำไร CK จากการผ่านงบประมาณประจำปี 2569 จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท แม้ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะยังคงมีอยู่แต่เราคาดว่า CK ที่มี backlog จำนวนราว 2 แสนล้านบาทยังคงสามารถรับรู้รายได้ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้เราคาดว่า การประกาศงานใหม่ที่ได้ใน ครึ่งปีหลังไม่ว่าจะเป็น Double deck  งามวงวาน จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท , มอเตอร์เวย์ M5 จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีแดงจำนวน 4 พันล้านบาทจะเป็น positive upside ต่อ CK ได้ พร้อมกันนี้เราคาดกำไรใน 3Q25 ของ CK จะเป็นจุดสูงจุดระหว่างปีจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกพร้อมกับกำไรที่ส่งผ่านจาก CKP ที่เป็นหน้าน้ำเช่นกัน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรป (EU CPI) เดือน ส.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.0% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่สหรัฐมีการายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (US ISM Manufacturing PMI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.5จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.6 จุด

วันพุธ ติดตาม ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน (Caixin Services PMI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.6 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 51.4 จุด ต่อด้วย ตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของสหรัฐ (US JOLTS Job openings) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.37 ล้านตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.43ล้านตำแหน่ง

วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.70% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าและอัตราเงินเฟื้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +0.78% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.84% YoY ต่อด้วยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของสหรัฐ (US ISM Service PMI)เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.9 จุดเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.1 จุด

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.75 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.73 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.3% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.2%

- Advertisement -