เก่งหลังเกมส์ 

SET Index เพิ่มขึ้น 10.53 จุด (+0.84%) ปิดที่ระดับ 1,259.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.46 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 280 บริษัท, หุ้นปรับลง 177 บริษัท) นักลงทุนเข้าเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากการเลือกตั้ง หลังรักษาการนายกฯ ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาฯ โดยมี Sector ที่ปรับขึ้นเด่นหนุนดัชนี คือ ค้าปลีก (CPAXT, CPALL, BJC, DOHOME), ไฟแนนซ์ (SAWAD, KTC, TIDLOR), กลุ่มมีเดีย (PLANB, RS, BEC) และ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA) ส่วนกลุ่มที่ปรับลง คือ กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE), กลุ่ม ปิโตรฯ และ โรงกลั่น (PTTGC, TOP, BCP)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

CPALL (+3.30%), CPAXT (+5.43%), BJC (+6.18%), DOHOME (+5.76%), GLOBAL (+2.61%) 

ยังเป็นกลุ่มหลักที่นักลงทุนให้น้ำหนักและคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีกปรับขึ้น Outperform ตลาดได้เป็นวันที่ 2 ผสานราคาหุ้นที่ยัง laggard และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วเป็นอีก 2 ปัจจัยผลักดันราคา

PLANB (+7.69%), RS (+11.11%), BEC (+4.72%), 

คาดหวังได้ประโยชน์จากภาพการเมืองไทยกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งหนุนเม็ดเงินหาเสียงผ่านสื่อและป้ายโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

CBG (+3.83%), OSP (+3.64%) 

อิงกระแสเลือกตั้ง เงินสะพัดก่อนเลือกตั้งหนุนยอดขายเครื่องดื่มชูกำลัง ผสานจิตวิทยาบวกจากต้นทุนน้ำตาลปรับลดต่อเนื่องวานนี้ ราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดลงอีก 1.3% เป็น 16.15 เซนต์ต่อปอนด์ (YTD-7.56%)

KTC (+4.59%)

1H25 ราคาผันผวนสูงร่วงจาก 52 บาทสู่ระดับ 22 บาท มองเป็นการปรับฐานจากปัจจัยลบเฉพาะตัว ในขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง มีกำไรระดับ 1,800 ล้านบาทต่อไตรมาสได้ต่อเนื่อง NPLs ทยอยปรับลดลง ได้ประโยชน์จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเรายังแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 40 บาท

AMATA (+5.73%)

เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 26 บาท มองบวกจากประเด็นขายบริษัทย่อยในเวียดนามคาดบันทึกกำไรจากการขายดังกล่าวประมาณ 500-800 ล้านบาทในช่วงกลางปีหน้า ผสานได้เงินสดจากการขายหนุน Cash flow และ Working cap แข็งแกร่ง หรือเลือกจ่ายคืนเงินกู้ช่วยลดดอกเบี้ยหนุนกำไรได้เช่นกัน

- Advertisement -