KS Daily View 10.09.2025 >>> คาด SET กรอบ 1,260-1,290 จุด หลังปรับตัวขึ้นชน SET index target ของ KS ที่ 1,275 จุด แนะนำ SCC และ PTT
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.27%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.37%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.43% โดยดัชนีหุ้นหลักทั้งสามปิดทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังหุ้น UnitedHealth พุ่งขึ้น และการปรับลดตัวเลขการจ้างงานที่เผยแพร่ล่าสุดช่วยสนับสนุนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,276.08 จุด เพิ่มขึ้น 9.97 จุด (+0.79%) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มอสังหา ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,260-1,290 จุด โดย SET index ได้ปรับตัวขึ้นชน SET index target ของ KS ที่ 1,275 จุดหรือ -0.5 SD จากค่าเฉลี่ย PER band ในอดีตหลังรับรู้ข่าวดีทั้งในและต่างประเทศที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยรายงานปรับปรุงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (มี.ค. 2024 – ก.พ. 2025) ลดลง 911,000 ตำแหน่ง สะท้อนภาพตลาดแรงงานอ่อนแอ หนุนภาพของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงเริ่มมีเข้ามามากขึ้นหลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศในกรุงโดฮา กาตาร์ หวังสังหารผู้นำฮามาส อาจหนุนให้ราคาพลังงานและเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นหากสงครามลุกลามขยายเป็นวงกว้าง ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง SCC และ PTT
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1) กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยรายงานปรับปรุงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (มี.ค. 2024 – ก.พ. 2025) พบการจ้างงานต่ำกว่าที่รายงานก่อนหน้า ลดลง 911,000 ตำแหน่ง สะท้อนภาพตลาดแรงงานอ่อนแอ และล่าสุด (มิ.ย.–ส.ค.) การจ้างงานเฉลี่ยเพียง 29,000 ตำแหน่ง/เดือน ต่ำกว่าระดับรักษาอัตราว่างงาน ก่อนหน้านี้การปรับตัวเลขปี 2023–2024 ก็หดตัวถึง 818,000 ตำแหน่ง มากที่สุดตั้งแต่ปี 2009 หนุนมุมมองของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด มองเป็น proxy ของการปรับอัตราดอกเบี้ยของ BoT
2) บอร์ดประกันสังคมมีมติเห็นชอบปรับสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการสะดวกขึ้น โดยยังคงวงเงินอุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน 900 บาท/ปี และเพิ่มค่าผ่าฟันคุด 1,500–2,500 บาท/ซี่, ขยายสิทธิ์ทำฟันเทียมถอดได้ วงเงินสูงสุด 6,000 บาท, เพิ่มค่าซ่อม-ติดตามรักษา และรองรับกรณีฝังรากฟันเทียมทั้งปาก รวมถึงปรับอัตราฟันเทียมและค่ารักษาที่ซับซ้อน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเล็กน้อยกับ BCH CHG RJH
3) อิสราเอลโจมตีทางอากาศในกรุงโดฮา กาตาร์ หวังสังหารผู้นำฮามาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมถึงลูกชายแกนนำฮามาส กาตาร์ประณามว่าเป็น “การก่อการร้ายของรัฐ” ขณะที่สหรัฐฯ และนานาชาติรุมวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำฝ่ายเดียวที่บั่นทอนการเจรจาหยุดยิงในกาซา หากสงครามลุกลามอาจหนุนให้ราคาน้ำมันดิบและก๊าซ LNG ปรับตัวขึ้น เป็นบวกต่อ PTTEP แต่เป็นลบกับ BGRIM และ GPSC
4) รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบ การปรับเกณฑ์สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ ซึ่งใช้เป็นกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะตาม มาตรา 50 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยได้ปรับจากเดิม ไม่เกิน 35% เป็น ไม่เกิน 50% เพื่อให้สอดคล้องกับ แผนการคลังระยะปานกลาง ปีงบประมาณ 2026-2029 มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
5) บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) CCET รายงานยอดขายเดือนสิงหาคม 2568 อยู่ที่ 276.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 16.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และลดลง 3.23% จากเดือนกรกฎาคม 2568 (MoM) ที่ทำได้ 285.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Daily pick
SCC: ราคาพื้นฐาน 208.00 บาท
คาดแนวโน้มของกำไร SCC จะปรับตัวดีขึ้นจาก spread ของ chain Olefin product ที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากมาตราการจำกัด supply ในจีน เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ประกอบกับ โรงงาน LSP กลับมาเดินเครื่องในช่วงปลายเดือน ส.ค. หนุนการเติบโตของรายได้ ใน 2H25 ในขณะเดียวกันงบประมาณปี 2026 ที่เบิกจ่ายออกจะหนุนความต้องการใช้ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างมากขึ้น ประกอบกับ การปรับขึ้นราคาปูนซีเมนต์ในประเทศใน 1H25 จะส่งผลให้กำไรปรับตัวดีขึ้น
PTT: ราคาพื้นฐาน 33.80 บาท
เราแนะนำเก็งกำไร PTT หลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศในกรุงโดฮา กาตาร์ หวังสังหารผู้นำฮามาส อาจหนุนให้ราคาพลังงานปรับตัวขึ้น ในขณะเดียวกันผู้บริหารเปิดเผยว่า หากมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะอยู่ภายใต้แนวคิดสาธารณูปโภค ซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบต้นทุนบวกกำไร (cost-plus) โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ตกลงกันไว้ โดยทั่วไปแล้ว สูตรราคาใหม่ดังกล่าวน่าจะเอื้อประโยชน์มากกว่าราคาต้นทุนก๊าซแบบรวม อีกทั้งคาด PTT จะให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 2025 ที่ 6.67%
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตาม รายงานอัตราเงินเฟื้อของจีน (China CPI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.2% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% YoY ต่อด้วยการายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.3% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า และ ดัชนีราคาผู้ผลิตมไม่รวมราคาอาหารลพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
- วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB interest rate decision) ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (US CPI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.9% YoY เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.7% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US core CPI) ตลาดคาดที่ +3.1% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
- วันศุกร์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 58.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 58.2 จุด และดัชนีความเชื่อมันของผู้บริโภคของไทยเดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.7 จุด