บล.กสิกรไทย:

สรุปผลประกอบการไตรมาส 2/2568

  • บริษัทรับเหมาก่อสร้าง 4 แห่งภายใต้การวิเคราะห์ของเรา ได้แก่ CK STEC SEAFCO และ PYLON รายงานกำไรปกติรวม 1.02 พันลบ. ในไตรมาส 2/2568 (+47% YoY และ +76% QoQ) สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 33% CK เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานโยธาทำผลงานได้ดีที่สุด โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุด YoY จากความคืบหน้าในการก่อสร้างและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ
  • ขณะที่กำไรของ STECON เติบโตขึ้น YoY เช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการก่อสร้างและการไม่มีส่วนแบ่งผลขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและสีเหลือง สำหรับผู้รับเหมางานตอกเสาเข็ม ทั้ง SEAFCO และ PYLON ต่างพลิกจากผลขาดทุนปกติในไตรมาส 2/2567 มาเป็นกำไรปกติ โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มและโครงการภาคเอกชนอื่นๆ
  • แนวโน้ม
  • เราคาดว่า CK จะเป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในไตรมาส 3/2568 โดยกำไรปกติน่าจะแตะระดับสูงสุดและเติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยความคืบหน้าในการก่อสร้างและการเป็นช่วงไฮซีซั่นของส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ขณะที่กำไรปกติของ STECON คาดว่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการก่อสร้างและการไม่มีผลขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและสีเหลือง
  • ส่วน SEAFCO และ PYLON คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตที่เร่งตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สำหรับโครงการใหม่ เราคาดว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะเปิดประมูลในไตรมาส 4/2568 หลังจากได้รับการอนุมัติจาก ครม. ในเดือน ก.พ.
  • มุมมอง KS : เราคงมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่มธุรกิจบริการก่อสร้าง โดยเลือก CK (“ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 21.5 บาท) และ SEAFCO (“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.43 บาท) เป็นหุ้นเด่น ปัจจัยบวก ได้แก่ 1) การประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 2 ที่กำลังจะมาถึง 2) การเร่งประมูลโครงการภาครัฐในไตรมาส 4/2568 ก่อนสิ้นปีงบประมาณ และ 3) แนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งของทั้งผู้รับเหมางานโยธาและงานตอกเสาเข็ม

- Advertisement -