ตลาดเริ่มไร้ปัจจัยใหม่ แต่บรรยากาศยังเป็นบวก
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 124 จุด (+0.27%) ปัจจัยหนุนการลดดอกเบี้ยของ FED ยังเป็นปัจจัยหนุน พร้อมกับแรงหนุนเชิงบวกจากหุ้น Tech ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.75% กังวลกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัว
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่าน สหรัฐฯ รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.3 แสนรายดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.41 แสนราย โดยพบ US Bond Yield ปรับขึ้นมาในรุ่นอายุ 2, 10 ปี สอดคล้องกับ Dollar Index ที่เริ่มแข็งค่าขึ้นมา และกดดันให้เงินบาทอ่อนค่ากลับมาทดสอบระดับ 31.92 บาท / ดอลลาร์ ซึ่งมองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยผ่านการส่งออกที่คลายกังวลกับอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมกับการท่องเที่ยวจะจูงใจมากขึ้น เป็นบวกกับหุ้น (ITC)
ท่องเที่ยว (MINT CENTEL ERW) แต่ทั้งนี้จุดสนใจของนักลงทุนในสหรัฐฯ เมื่อคืนได้แก่ การที่ NVIDIA ลงทุนใน INTEL ราว 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนหนึ่งประเมินว่า NVIDIA ต้องการลดการพึ่งพิง TSMC แต่หากดูที่สัดส่วนยอดขายของตลาด Semiconductor TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยสัดส่วน 60% (ราคาหุ้น TSM เมื่อคืนในตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก 2.2%) คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามของฝั่งสหรัฐฯ
สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้ SET INDEX ปรับลงราว (-0.7%) รับแรงขายอย่างมีนัยยะของนักลงทุนต่างชาติราว 3.2 พันล้าน โดยที่ไม่ได้มีปัจจัยใดๆ ที่มีนัยยะ เชื่อว่าเป็นเพียงแรงขายทำกำไรจากการที่ SET ปรับขึ้นมาแรงก่อนหน้า หากพิจารณาที่จุดต่ำสุดล่าสุดปรับขึ้นมา 5% แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ เชื่อว่าจะเห็นในเร็วๆนี้ ส่วนกรณี CRC ได้ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ในส่วนของห้างรินาเซนเตที่ประเทศอิตาลี ประเมินว่าท้ายที่สุดแล้วจะกระทบกำไรราว 10% (รวมกับนำเงินไปลดภาระหนี้สินแล้ว)
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1290 – 1310 ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ดัชนีก็ปรับขึ้นมาในระดับหนึ่งจนทำให้ซื้อขายที่ Forward PE 14.4x ก็เริ่มเป็นระดับที่ไม่ถูก การลงทุนในดัชนีช่วงนี้จึงเน้นเป็นเพียงการ Trading และควรมีจุด Stop Loss ชัดเจนหากเกิดข่าวร้ายหรือเผชิญการปรับฐาน หุ้นแนะนำช่วงนี้เน้นที่ Theme ดอกเบี้ยปรับลง อาทิ การเงิน (MTC) อสังหาฯ (AP SPALI) ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO CPAXT) ส่งออก (ITC)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 78.00 บาท)
แนวโน้ม SSSG ช่วง QTD ของ 3Q25 ยังทรงตัวได้ YoY ทำให้เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2H25 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้า Ready-to-eat และ Ready-to-drinks และ Synergy benefits ของ CPAXT
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 137.00 บาท)
SCB มุ่งมั่นในการเพิ่ม ROE และรักษาผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดผลตอบแทนเงินปั่นผลสูงสุดในกลุ่มธนาคารที่ 9.2% และคาดคำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ที่ 7.2%