KS Daily View 19 ก.ย. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,285-1,315 จุด หลังจากที่ SET index ทดสอบแนวต้านเชิงจิตวิทยา 1,300 จุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเรายังคงมุมมองว่า ภาพของตลาดเป็นการหมุนเวียนหรือสลับกลุ่มการลงทุน ตามปัจจัยบวกเฉพาะ แนะนำ BCH CK

 แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.48%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.94%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.27% ซึ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันพฤหัสบดี หนึ่งวันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในขณะเดียวกันหุ้นอินเทลปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 1987 โดยพุ่งขึ้นถึง 22.8% หลังจากเอ็นวีเดียประกาศว่าจะลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ในผู้ผลิตชิปสัญชาติอเมริกันที่กำลังเผชิญปัญหา

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,297.01 จุด ลดลง 9.68 จุด (-0.74%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,285-1,315 จุด หลังจากที่ SET index ได้ไปทดสอบแนวต้านเชิงจิตวิทยา 1,300 จุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเรายังคงมุมมองว่า ภาพของตลาดเป็นการหมุนเวียนหรือสลับกลุ่มการลงทุน ตามปัจจัยบวกเฉพาะ หลังจากที่ SET index ปรับตัวขึ้นสะท้อนข่าวดีในช่วงที่ผ่านมาหนุนให้  valuation ของตลาดปรับตัวขึ้นและอาจส่งผลให้ fund flow เข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อย่าง BCH เก็งการกลับมาของผู้ป่าวต่างชาติ และ CK การเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐ หลังรมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เผยงบปี 2025 เบิกจ่ายแล้วกว่า 60% ตั้งเป้าเร่งเบิกจ่ายเบิกครบ ก.ย.นี้

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. รายงานของ Bloomberg ระบุว่า เวียดนามแซงไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ปี 2568 มีชาวจีนกว่า 3.5 ล้านคน เพิ่ม 44% ขณะที่ไทยลดลง 35% อาจสูญรายได้ 3,500 ล้านดอลลาร์ เหตุเวียดนามถูกมองว่าน่าสนใจและดั้งเดิมกว่า ส่วนไทยเสียภาพลักษณ์จากปัญหาคดีหลอกลวง-ค้ามนุษย์ และค่าครองชีพสูง
  • รมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เผยงบปี 2025 เบิกจ่ายแล้วกว่า 60% ตั้งเป้าเบิกครบ ก.ย.นี้ พร้อมเร่งลงนาม 5,137 โครงการ วงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะงบปี 2026 ได้รับ 2.65 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ 22 โครงการ วงเงินรวม 9.1 แสนล้านบาท เช่น มอเตอร์เวย์ นครปฐม–ชะอำ, ทางด่วนกะทู้–ป่าตอง, รถไฟฟ้าสายสีแดง-ส้ม และรถไฟทางคู่ มองเป็นบวกกับ CK และ STECON
  • 3 สมาคมอสังหาฯ เสนอนายกฯ อนุทินออกมาตรการเร่งด่วนปลายปี 2568 ได้แก่ ลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% ทุกระดับราคา และ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% เพื่อหนุนกำลังซื้อและลดภาระประชาชน คาดช่วยกระตุ้นตลาดผ่านมหกรรมบ้าน-คอนโด ครั้งที่ 48 มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท และพยุงตลาดปี 2026 มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับกลุ่มอสังหา
  • รัสเซียปรับเพิ่มแผนการส่งออกน้ำมันทางเรือจากท่าอุสต์-ลูกา (ทะเลบอลติก) และท่าโนโวโรสซีย์สก์ (ทะเลดำ) ในเดือนกันยายน หลังท่าเรือหลักปรีมอร์สก์เสียหายจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน การปิดโรงกลั่นหลายแห่งยิ่งทำให้น้ำมันดิบเหลือส่งออกมากขึ้น โดยอุสต์-ลูกาจะส่งออกเพิ่มเป็น 500,000 บาร์เรล/วัน (2 ล้านตัน) จากเดิม 1.5 ล้านตัน ส่วนโนโวโรสซีย์สก์จะเพิ่มเป็น 750,000 บาร์เรล/วัน (3.1 ล้านตัน) สูงสุดในรอบหลายเดือน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับ PTTEP
  • การนำเข้าถ่านหินความร้อนทางทะเลของจีนฟื้นตัว ช่วยให้ราคาดีดขึ้น โดยกันยายนคาดนำเข้า 27.41 ล้านตัน ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ทำได้เมื่อสิงหาคม เหตุเพราะผลผลิตในประเทศลดลงจากการตรวจสอบความปลอดภัยของเหมือง และความต้องการไฟฟ้าเพิ่มจากอากาศร้อนจัดและปริมาณน้ำในเขื่อนลดลง ราคาถ่านหินอินโดนีเซียและออสเตรเลียจึงขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 4 ปี  มองเป็นบวกกับ BANPU
  • ทริสเรทติ้งปรับลดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของ IVL ลงเป็น “A+” (จาก “AA-“) และหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็น “A-” (จาก “A”) พร้อมเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Stable” จาก “Negative” สะท้อนผลประกอบการต่ำกว่าคาดและภาระหนี้สูง โดยอัตราหนี้สินต่อ EBITDA ล่าสุดอยู่ที่ 6.2 เท่า เกินเกณฑ์ที่กำหนด (3 เท่า)

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • BCH: ราคาพื้นฐาน 16.60 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BCH จากแนวโน้มของ 3Q25 จะมีผลประกอบการณ์ดีขึ้นต่อจาก 2Q25 ด้วยสภาพอากาศเป็นหน้าฝน เข้า high season ของกลุ่มโรงพยาบาลและมีการบันทึก รายการพิเศษของรายได้จากประกันสังคมด้วย พร้อมกันนี้เราคาดว่า ผลกระทบจากรายได้ของคนไข้ Kuwait ที่จะ normalized ในขณะเดียวกัน เก็งการฟื้นตัวของผู้ป่วยคูเวตหลังจากการประชุมกับ สถานกงสุลจากคูเวตในงาน Rediscovering Health in Thailand ที่มองเป็น upside ในอนาคต ด้วยภาพของกำไร 3Q25 ที่คาดว่าจะออกมาแข็งแกร่งจะหนุนให้ รายได้ใน 2H25 เติบโตดีกว่า 1H25 จากการเติบโตของรายได้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ผลขาดทุนจากโรงพยาบาลใหม่ทั้งสามแห่งคาดว่าจะลดลง และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปทุมธานี รายได้มีโมเมนตั้มที่ดีขึ้นหลังการรีแบรนด์

  • CK : ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องกับ CK จากการเร่งเบิกจ่ายของงบประมาณปี 2025 หลังรมว.คมนาคม ตั้งเป้าเบิกครบ ก.ย.นี้ พร้อมเร่งลงนาม 5,137 โครงการ วงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะงบปี 2026 ได้รับ 2.65 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ 22 โครงการ วงเงินรวม 9.1 แสนล้านบาท ในขณะเดียวกันคาดรายได้ใน 2H25 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่และคาดว่าจะสามารถได้โครงการใหม่เช่น รถไฟความเร็วสูงไทยจีนเฟส 2 และ โครงการทางด่วน double-deck เช่นกัน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.8% YoY ลดลงเดือนก่อนหน้าที่ +3.1% YoY ต่อด้วยผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า
- Advertisement -