KS Daily View 22.09.2025 >>> SET เผชิญแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติ/ ปัจจัยบวกใหม่น้อยกรอบ SET วันนี้ 1,275–1,310 จุด แนะนำ AEONTS และ BGRIM

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดดัชนีตลาด SET Index ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,275 – 1,310 จุด แนวโน้มหลักของดัชนีเป็นภาพของปรับตัวขึ้น แต่ยังเผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติที่ระดับแนวเหนือ 1,300 จุดขึ้นมา ทำให้ปิดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้อีกครั้ง ส่งผลให้เมื่อมองไปข้างหน้าเราแนะนำอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังความผันผวนที่จะเพิ่มขึ้น ปัจจัยบวกใหม่ในตลาดดูเริ่มมีน้อยและส่วนมากที่มีอยู่ตลาดก็รับรู้แล้วไป ทั้งเรื่องการเปลี่ยนผ่านนายกฯ ใหม่ได้เร็ว จนกระทั่งเรื่องการโปรดเกล้าฯ ครม. อนุทิน 1 และการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ Fed สัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจะจับตามองเรื่องในประเทศเป็นหลัก 2 ประเด็น โดยสำหรับประเด็นแรกคือ การนำ ครม. อนุทิน 1 เข้าถวายสัตย์ในช่วงวันพุธที่ 24 ก.ย. นี้ และการนัดแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งตลาดรอความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ timeline สำหรับโครงการเร่งด่วนอย่างโครงการคนละครึ่ง โครงการช้อปดีมีคืน รวมถึงการเลื่อนเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อกระตุ้นการบริโภคและภาคอสังหาฯ

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1292.72 จุด ปรับตัวลดลง -0.07% จากสัปดาห์ที่ผ่านหนุนโดยการปรับตัวลดลงของกลุ่มสื่อ, กลุ่มปิโตรเคมี, และกลุ่มขนส่ง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,275–1,310 จุด หลังการปรับตัวขึ้นของตลาดเริ่มดูตันๆ ปัจจัยบวกใหม่ในตลาดดูเริ่มมีน้อยและส่วนมากที่มีอยู่ตลาดก็รับรู้แล้วไป ประกอบกับเผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติ แนะนำ AEONTS และ BGRIM

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. Sinopec ในจีน เริ่มโครงการอัปเกรดโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่เถอเหอ (Tahe) ในซินเจียง เพิ่มกำลังกลั่นจาก 5 เป็น 8.5 ล้านตัน/ปี และสร้างหน่วยผลิตใหม่ 16 หน่วย รวมถึงไฮโดรแครกกิ้ง 2.4 ล้านตัน/ปี, แครกกิ้งเอทิลีน 800,000 ตัน/ปี และคอมเพล็กซ์อะโรเมติกส์ 800,000 ตัน คาดเสร็จปี 2029 และสร้างมูลค่าเพิ่มราว 20.2 พันล้านหยวน/ปี (2.8 พันล้านดอลลาร์) โดยSinopec ยังลงทุนสำรวจและพัฒนากำลังการผลิตในซินเจียงและฝูเจี้ยน คิดเป็น 63% ของงบลงทุนครึ่งปีแรก 2025 มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อยกับ PTTGC และ IRPC
  1. อินฟินีออน เทคโนโลยีส์ ยักษ์เซมิคอนดักเตอร์เยอรมนีได้ ประกาศเลือกไทยเป็นฐานประกอบและทดสอบชิป Power Module ที่ใหญ่ที่สุดนอกเยอรมนี ตั้งโรงงานใหม่ที่สมุทรปราการ จ้างงานกว่า 5,000 คน และดึงพันธมิตรสำคัญ MPI (มาเลเซีย) เข้ามาลงทุน มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกกับ WHA และ AMATA
  1. บริษัทพลังงานสหรัฐฯ เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 รวมเป็น 542 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน ก.ค. แม้ยังต่ำกว่าปีก่อน 8% โดยแท่นน้ำมันเพิ่มเป็น 418 ขณะที่บางพื้นที่ เช่น DJ-Niobrara และโคโลราโด มีจำนวนสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี แม้ราคาน้ำมันคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องถึงปี 2025 แต่ EIA คาดการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ จะเพิ่มสถิติใหม่ราว 13.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อยกับ PTTEP
  1. ในขณะเดียวกันอิรักเพิ่มการส่งออกน้ำมันหลัง OPEC+ เริ่มทยอยยกเลิกการลดกำลังการผลิต โดย SOMO ระบุว่าการเพิ่มส่งออกจะสร้างรายได้เพิ่มหลายร้อยล้านดอลลาร์ หากราคาน้ำมันยังอยู่ระดับปัจจุบัน แม้ไม่เปิดเผยตัวเลข แต่ระบุว่าการผลิตเพิ่มอีก 200,000 บาร์เรล/วันจะช่วยเพิ่มรายได้เข้าสู่รัฐ ทั้งนี้อิรักส่งออกเฉลี่ย 3.38 ล้านบาร์เรล/วันในสิงหาคม และคาดกันยายนจะอยู่ที่ 3.4–3.45 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่อิรักยังถูกกดดันจาก OPEC ให้ชดเชยการผลิตเกินโควตาที่ตกลงไว้
  1. ติดตามการนำ ครม. ของนายอนุทินเข้าถวายสัตย์ในช่วงวันพุธที่ 24 ก.ย. นี้ และการนัดแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งตลาดรอความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ timeline สำหรับโครงการเร่งด่วนอย่างโครงการคนละครึ่ง โครงการช้อปดีมีคืน รวมถึงการเลื่อนเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อกระตุ้นการบริโภคและภาคอสังหาฯ มองเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มอสังหา

Daily pick

AEONTS: ราคาพื้นฐาน 135.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AEONTS จากการคาดการณ์การรายงานกำไรใน 2Q26FY ที่ระดับ 836 ล้านบาทเติบโตราว 8% QoQ และ 2% YoY จากการขาย NPL ตามปกติในไตรมาส 2 เราประเมิน credit cost มีโอกาสปรับตัวลดลงในครึ่งปีหลังจากการควบคุม Asset quality ที่เข้มงวดและการปรับ credit scoring ในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้เราคาดการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลใหม่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าได้ พร้อมกันนี้ด้วยระดับcoverage ที่สูงเมื่อเทียบกับในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับ AEONTS ได้ และเราคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงเดือนธันวาคมจะส่งผลให้ funding cost ลดลงได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

BGRIM: ราคาพื้นฐาน 15.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BGRIM จากมูลค่าที่ถูกกดดัน (-2SD,2026 PE 13.x และ PBV 0.9x) ซึ่งนักลงทุนกังวลกรณี FiTโรงไฟฟ้าโซลาร์ในเวียดนาม (497MW) อาจถูกปรับลดลงกระทบกำไร 15–20% แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 4Q25 และผลกระทบอาจน้อยกว่าที่คาด ขณะเดียวกัน ปัจจัยหนุนหลักคือวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยทุกการปรับลดดอกเบี้ย 10bps จะเพิ่มอัพไซด์ราว 5% ให้ราคาเป้าหมาย แรงกดดันจากนโยบายรัฐด้านค่าไฟยังจำกัด โดยเราตั้งสมมติฐานค่าไฟ 2026 ที่ 3.90 บาท/หน่วย ใกล้เคียงปัจจุบัน 3.94 บาท/หน่วย อีกทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลงจากราคา LNG ที่ปรับลงสู่ 11.5 ดอลลาร์/MMBTU และเงินบาทแข็งค่า ซึ่งทุกการลดลงของ Pool gas 10 บาท/MMBTU จะเพิ่มกำไรปี 2026 ราว 6% ประกอบกับ IEA คาดกำลังผลิต LNG โลกเพิ่ม 215 ล้านตัน/ปี ระหว่าง 2025–2030 โดยเฉพาะช่วง 2026–2027 ที่จะกดดันราคาLNG ให้อ่อนตัวลงต่อ นอกจากนี้ BGRIM ยังได้ S-curve ใหม่จากการลงทุนศูนย์ข้อมูลผ่าน JV กับ Digital Edge ขนาด 96MW มูลค่าลงทุน 25,000 ล้านบาท ซึ่งเฟสแรกจะ COD ปลายปี 2026 และเฟสสองปี 2029 คาดสร้างมูลค่าเพิ่ม 1.5–2.5 บาท/หุ้น ด้วย EBITDA margin ราว 40%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตาม Loan prime rate ของธนาคารกลางจีนระยะเวลา 1 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.0% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า และ Loan prime rate อายุ 5 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า

วันอังคาร ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.8 จุด เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.7 จุด และ การรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของโซนยุโรป (HCOB Service PMI Flash) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.5 ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) ครั้งแรกเดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.9 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้ารายงานที่ 53.0 จุด ปิดท้ายด้วยถ้อยคำแถลงของประธานเฟดPowell เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในงาน Greater Providence Chamber of Commerce Economic Outlook Luncheon ที่รัฐโรดไอแลนด์

วันพุธ ติดตามการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ไทยในตัวเลขส่งออก (TH Export) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.0% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.0% YoY และตัวเลขนำเข้าเดือน (TH Import) ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.1% YoY

วันพฤหัสบดี ติดตามยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (Durable goods orders) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -2.8% MoMต่อด้วยการรายงานครั้งสุดท้ายของ GDP 2Q25 สหรัฐอเมริกา ตลาดคาดที่ 3.3% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.34 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.31 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index)เดือน ส.ค. ตลาดคาดที่ 2.7% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.6% YoY

- Advertisement -