KS Daily View 3 ต.ค. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,270-1,300 จุด ซึ่งในระยะสั้นการปรับตัวของ SET index อาจถูกทดสอบด้วยแนวต้านที่มีแรงขายเชิงจิตวิทยาที่ระดับ 1,300 จุด ในขณะเดียวกันคาด SET index อาจถูกกดดันด้วยกลุ่มพลังงาน แนะนำ CK และ ERW
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.06%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.39%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.17% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นจาก บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Nvidia, Apple และ Broadcom ในขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาดูข้อมูลตลาดแรงงานภาคเอกชนและการปิดทำการบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯในวันที่สอง
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,288.29 จุด เพิ่มขึ้น 13.26 จุด (+1.04%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,270-1,300 จุด ซึ่งในระยะสั้นการปรับตัวของ SET index อาจถูกทดสอบด้วยแนวต้านที่มีแรงขายเชิงจิตวิทยาที่ระดับ 1,300 จุด ในขณะเดียวกันคาด SET index อาจถูกกดดันด้วยกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงประมาณ 2% ในคืนที่ผ่านมาจาก OPEC อาจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน พ.ย. มากกว่าที่คาด ในทางกลับกันมองว่า กลุ่มรับเหมาก่อสร้างอาจได้ภาพเชิงบวกมากขึ้น หลัง รฟท. เปิดร่าง TOR รถไฟสายสีแดงเข้มต่อขยาย ประกอบกับแนวโน้มของผลประกอบการหลักจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง CK และ ERW จากแนวโน้มของกำไรจากผลประกอบการหลักจะแตะจุดต่ำสุดใน 2Q25 และฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- รฟท. เปิดร่าง TOR รถไฟสายสีแดงเข้มต่อขยาย รังสิต–มธ.ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินกว่า 6,064 ล้านบาท เปิดรับฟังความเห็น 1–6 ต.ค. 2568 ก่อนเปิด e-bidding โครงการสร้างรางใหม่ 2 ราง ระดับดิน มี 4 สถานี ต้องเวนคืนที่ดิน 15 ไร่ ใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 1,080 วัน กำหนดค่าปรับล่าช้า 0.10% ต่อวัน และรับประกันงาน 24 เดือน โดยพิจารณาคุณสมบัติ เทคนิค (ผ่านขั้นต่ำ 75%) และราคา ไม่จำเป็นต้องเลือกราคาต่ำสุด มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ CK และ STECON
- CPF ประกาศที่ประชุมบอร์ดอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท โดยจะซื้อคืนจำนวน 350 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.16% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท กำหนดช่วงเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ 8 ต.ค. 2025 ถึง 7 เม.ย. 2026 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารทางการเงินและสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงประมาณ 2% ในคืนที่ผ่านมา จากกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดก่อนการประชุม OPEC+ ที่อาจเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันถึง 500,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ การซ่อมบำรุงโรงกลั่นและความต้องการน้ำมันในช่วงฤดูกาลที่ลดลงยังคาดว่าจะเพิ่มปริมาณสต็อกน้ำมันทั่วโลก มองเป็นลบกับ PTTEP และหากแนวโน้มราคาน้ำมันยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิน inventory loss ในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP SPRC BSRC BCP
- กสทช. อนุมัติให้ SYMC และ บ.อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ สร้างท่อร้อยสายสื่อสารรวม 5 เส้นทาง ระยะทาง 34.39 กม. โดย SYMC ได้รับอนุญาต 1 เส้นทางที่สะพานมิตรภาพไทย–ลาว จ.หนองคาย เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายไปต่างประเทศ ขณะที่อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ได้ 4 เส้นทาง เชื่อมโครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างประเทศฝั่งทะเลอันดามันกับภาคพื้นดิน ผ่าน จ.สตูล–หาดใหญ่–สงขลา
- EU เตรียมเสนอปรับภาษีนำเข้าเหล็กเป็น 50% จากเดิม 25% หลังสินค้านำเข้าเกินโควตา เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กภายในและสอดคล้องกับมาตรการของสหรัฐฯ ที่ใช้ควบคุมปัญหาเหล็กล้นตลาดจากจีน โดยโควตาจะถูกกำหนดแยกตามประเภทสินค้าและค่าเฉลี่ยในอดีต พร้อมทั้ง EC จะขออำนาจกำหนดโควตาเป็นรายประเทศ คาดว่าจะเผยรายละเอียดแผนดังกล่าวภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่มาตรการชั่วคราวปัจจุบันจะหมดอายุในปีหน้า มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับ DOHOME และ GLOBAL
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- CK : ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องกับ CK จากการเร่งเบิกจ่ายของงบประมาณปี 2025 หลังรมว.คมนาคม ตั้งเป้าเบิกครบ ก.ย.นี้ พร้อมเร่งลงนาม 5,137 โครงการ วงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะงบปี 2026 ได้รับ 2.65 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ 22 โครงการ วงเงินรวม 9.1 แสนล้านบาท ในขณะเดียวกันคาดรายได้ใน 2H25 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่และคาดว่าจะสามารถได้โครงการใหม่เช่น รถไฟความเร็วสูงไทยจีนเฟส 2 และ โครงการทางด่วน double-deck เช่นกัน
- ERW: ราคาพื้นฐาน 3.28 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ ERW จากแนวโน้มของกำไรจากผลประกอบการหลักจะแตะจุดต่ำสุดใน 2Q25 และมีแนวโน้มฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q25 เป็นต้นไป อีกทั้งบริษัทฯ คาดว่าอัตราการเติบโตของ RevPar จะกลับมาเป็นบวกในเดือน ต.ค. โดยมีการเติบโตในอัตราตัวเลขหลักเดียว YoY หลังจากที่ลดลงใน 2Q25-3Q25 ประกอบกับความคาดหวังมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ อีกทั้งผู้ว่าการ ททท. ได้เสนอไอเดียผ่าน social media ให้มีโครงการ ทัวร์ไทยคนละครึ่ง เพื่อดึงดูดคนไทยออกมาเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับเราคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H25 ที่เป็น high season เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก อีกทั้ง ททท. เปิดตัวโครงการ “Nihao Month” ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน (Golden Week) ระหว่าง 1–8 ต.ค. 2025 เพื่อรับมือการชะลอตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่อาจหนุนให้รายได้มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q25
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.50 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.22 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.3% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า