บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินดัชนี SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหว Sideway จับตาชัตดาวน์สหรัฐฯ–แรงหนุน “คนละครึ่งพลัส” หนุนหุ้นกลุ่มบริโภคมองดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260-1,320 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นรับอานิสงส์โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ใช้ได้ ต.ค.นี้
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในเดือนตุลาคม 2568 มีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนกรณีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะ “โครงการคนละครึ่งพลัส” วงเงินดำเนินการรวม 6.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การดำเนินการผ่านการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.4 ล้านราย วงเงิน 22,000 ล้านบาท และในสัปดาห์นี้ เตรียมเสนอที่ประชุมครม. ในวันที่ 7 ต.ค. เห็นชอบโครงการ “คนละครึ่งพลัส” สำหรับประชาชนทั่วไป 20 ล้านคน ที่เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จึงคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET อยู่ระหว่าง 1,260-1,320 จุด โดยแนะจับตาปัจจัยต่างประเทศควบคู่กับความคืบหน้าของมาตรการภาครัฐ
นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดแรงงานสหรัฐฯ หลังความเสี่ยงชัตดาวน์ยาวถึงสัปดาห์นี้อาจเลื่อนการรายงานตัวเลขจ้างงาน และอาจส่งผลให้กระทรวงแรงงานต้องเลื่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคมนี้
ขณะเดียวกัน ADP รายงานว่า การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนลดลง 32,000 ตำแหน่ง สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง โดยยังมีการปรับทบทวนตัวเลขเดือนสิงหาคมจากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 54,000 ตำแหน่ง เป็นลดลง 3,000 ตำแหน่ง ส่วนปัญหาด้านความไม่สงบ ล่าสุด รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ออกแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมทางออนไลน์ ระบุว่า ถึงเวลาที่ต้องเพิ่มแรงกดดันสูงสุดต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ เพื่อจำกัดศักยภาพทางเศรษฐกิจของรัสเซียในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ วันที่ 8 ต.ค. กำหนดประชุมกนง. ครั้งที่ 5/2568, สัปดาห์ที่ 2 กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า, ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, วันที่ 31 ต.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ยังเฝ้าติดตาม อาทิ วันที่ 7 ต.ค. ญี่ปุ่น รายงานการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนส.ค., สหรัฐฯ รายงานดุลการค้าเดือนส.ค. และการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนก.ย., วันที่ 28-29 ต.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งที่ 7/68
นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศของกระทรวงการคลังถึงความพร้อมในการเดินหน้าหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่คาดว่าจะใช้ได้ในปลายเดือนต.ค. นี้ โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวได้แก่ CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP และ MOTHER