บล.พาย:
KTB: Krungthai Bank
กำไรใน 3Q25 เติบโตจากกำไรพอร์ตลงทุน
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 28.00 บาท (เดิม 24.50 บาท) จากการปรับใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2026 ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9%, Terminal growth 2%) อิง 0.8 x PBV’26E แม้ผลการดำเนินงานจากธุรกิจธนาคารจะชะลอตัว กดดันจากการชะลอตัวของสินเชื่อ และ NIM ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่รายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากกำไรใน FVTPL จากการถือหุ้น บมจ. การบินไทย (THAI) ดังนั้น คาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับสูงขึ้น 4.4% อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลลบต่อเนื่องให้ NIM ปรับลดลงต่อเนื่องในปี 2026 และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2026 จะปรับลดลง 3% ดังนั้นการเติบโตจะไม่ใช่ปัจจัยหลักต่อการลงทุนในปี 2026 แต่เป็นงบดุลที่แข็งแกร่ง และผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่เราคาดว่าจะสูงกว่า 6% ในปี 2025-26
คาดกำไรสุทธิใน 3Q25 แข็งแคร่งจากกำไรในพอร์ตลงทุน
- เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q25 ที่ 14.2 พันล้านบาท (+28.2% YoY, +28% QoQ) ปัจจัยหลักหนุนกำไรเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธธรรมผ่านกำไร (FVTPL) สูงขึ้น จากการถือหุ้นรวม 1.327 พันล้านหุ้น ใน บมจ.การบินไทย (THAI) เป็นหลัก อย่างไรก็ดี คาดว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีแนวโน้มลดลงล้อกับสินเชื่อลดลง และ NIM ลดลงจากการปรับลด อัตราดอกเบี้ย
- หากไม่รวมรายการพิเศษ FVTPL จากการถือหุ้นใน THAI คาดว่ากำไรจะอยู่ทราว 11.0-11.5 พันลบ. ทรงตัว YoY และ QoQ
- สินเชื่อรวม คาดปรับลดลง 1.5% QoQ (-2.4% YTD) จากการชำระคืนสินเชื่อภาครัฐ และการลดลงของสินเชื่อ SME โดย KTB รายงาน สินเชื่อสุทธิเดือน ก.ค.-ส.ค. ปรับลดลงราว 1.8% จากเดือน มิ.ย.
- แม้ควบคุมคุณภาพสินเชื่อทำได้ดี แต่คาดว่า NPL ratio จะปรับสูงขึ้นเล็กน้อย QoQ อยู่ที่ 3% จากฐานสินเชื่อที่ลดลง ขณะที่ Coverage ratio ปรับขึ้นที่ 198% จากสำรองหนี้ฯ ที่สูงขึ้น
สินเชื่อ และ NIM อ่อนแอกดดันกำไรปี 2026
- เราปรับลดสินเชื่อในปี 2025 เป็นหดตัว 1.5% (เดิม +0.5%) แต่คงการเติบโต 2% ในปี 2026 อย่างไรก็ดี KTB จะรับรู้กำไรจากรายการ FVTPL เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการถือหุ้นใน THAI ในต้นทุนที่ต่ำเพียง 2.545 บาท ดังนั้น เราปรับคาดการณ์กำไรในปี 2025 เพิ่มขึ้น 3.5% เป็น 45.8 พันลบ. (+4.4% YoY)
- ผลการดำเนินงานในปี 2026 มีความท้าทายมากขึ้นจากเศรษฐกิจไทย ที่แนวโน้มเติบโตชะลอตัว ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดเศรษฐกิจจะเติบโต 1.7% จาก 2.3% ในปี 2025 และความผันผวนจากการบันทึกกำไรในรายการ FVTPL ที่ส่วนหนึ่งขึ้นกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น THAI เราคาดกำไรสุทธิในปี 2026 ลดลง 3% ที่ 44.4 พันลบ.
- KTB ไม่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลใน 1H25 ดังนั้น เราคาด Dividend yield สูงที่ 6.3% ในปี 2025 รองลงมาจาก SCB ที่คาด ว่าผลตอบแทนเงินปันผลใน 2H25 ที่ 7.2%