เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 16.85 จุด (-1.30%) ปิดที่ระดับ 1,275 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.67 หมื่นล้านบาท ดัชนีปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ วิตกปัญหาผิดนัดชำระหนี้และการทุจริตของภาคธนาคารท้องถิ่นในสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงจาก Trade war ระหว่างจีนกับสหรัฐ โดยมี Sector ที่ปรับลงกดตลาดวันนี้ คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA, KCE), กลุ่มน้ำมัน, โรงกลั่น และ ปิโตรฯ (PTTEP, TOP, PTTGC), ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, HMPRO, CRC) และกลุ่มอสังหาฯ (AP, SPALI, LH, SIRI, SC) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, LHFG)
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ
PTTEP (-2.33%), PTTGC (-5.65%), TOP (-3.57%), SPRC (-2.27%) ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ร่วงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เป็นจิตวิทยาลบกดดันหุ้นในกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรฯ ผสาน Preview งบ 3Q25 ของ PTTEP ไม่เด่นคาดมีกำไรสุทธิ 13,983 ล้านบาท ลดลง 22%y-y
AP (-4.09%), SC (-5.06%), SIRI (-2.11%), SPALI (-4.02%) นักวิเคราะห์อสังหาฯ ของเราออกรายงานสรุปยอดขาย presale 3Q25 ชะลอตัวสู่ระดับ 5.4 หมื่นล้านบาท -12%y-y ลดลง y-y เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกันสะท้อนภาพอสังหาฯ ยังอ่อนแอ ในขณะที่ SC และ SIRI มีปัจจัยลบเฉพาะตัวจากข่าว Prince Holding Group (ซึ่งมีข่าวพัวพันสแกมเมอร์ในกัมพูชา) เคยเข้าลงทุนในโครงการของบริษัท อย่างไรก็ตามล่าสุด SC และ SIRI ออกประกาศชี้แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับกลุ่ม Prince Holding Group ตามที่เป็นข่าว
CPALL (-1.05%), CPAXT (-1.83%), BJC (-1.02%) มีจิตวิทยาลบจากรายงานยอดร้านค้าลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส วันแรกมีเพียง 79,736 แห่ง (อยู่ระหว่างดำเนินการ 107,457 แห่ง) นับเป็นระดับตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำหากเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่มีจำนวนร้านค้าเข้าร่วมลงทะเบียน 9 แสนแห่ง ถึง 1 ล้านแห่ง
LHFG (+1.33%) ปรับขึ้นตอบรับงบ 3Q25 ออกมาดี มีกำไรสุทธิ 925 ล้านบาท +67.8q-q และ 59.5%y-y ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่คุณภาพ Asset ดีขึ้น NPL ratio ลดลงสู่ระดับ 2.47% จาก 2.59% ใน 2Q25
