ย้ำองค์กรผู้นำ Net Zero 2050 เซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลัง ม.เชียงใหม่ พร้อมพันธมิตร ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ด้าน Sustainovation ผลักดันงานวิจัยสู่ธุรกิจเพื่อสังคม

  • เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมมือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมพันธมิตรหน่วยงานท้องถิ่น-เครือข่ายธุรกิจระดับประเทศ ชู 3 แนวทางพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ 1) นำร่อง Circular Economy Model 2) ต่อยอด Green Road และ 3) จุดประกาย Start-up & SME Empowerment 
  • สะท้อน 45 ปี เซ็นทรัลพัฒนา เดินหน้าสร้าง Sustainable & Social Business Ecosystem บูรณาการเข้ากับธุรกิจหลัก ผ่านแนวคิด Sustainovation ผลักดันให้ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของผู้คน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เดินหน้าพัฒนาด้านความยั่งยืนสู่เป้าหมาย Net Zero 2050  ผนึกกำลัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงนามความร่วมมือ “การส่งเสริมการนำองค์ความรู้งานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และการสร้างธุรกิจเพื่อพัฒนาสังคมแห่งความยั่งยืน” พร้อมพันธมิตรหน่วยงานท้องถิ่น และเครือข่ายธุรกิจระดับประเทศ ได้แก่ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ (ERDI–CMU), สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ (MRDI–CMU), อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP–CMU), เครือข่ายธุรกิจเพื่อการจัดการสภาพภูมิอากาศประเทศไทย (Thailand Climate Business Network: ThaiCBN) รวมถึงเทศบาลเมืองกระบี่ ร่วมพัฒนานวัตกรรมต้นแบบที่สามารถขยายผลสู่การใช้จริงในระดับสังคมและเศรษฐกิจ ณ Exhibition Hall อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Chief Operation Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่าเซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้โมเดล The Ecosystem for All เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 และการขับเคลื่อน ESG ผ่านการส่งเสริมนวัตกรรมสีเขียว การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และการจ้างงานในชุมชน ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ และเชื่อว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการบูรณาการองค์ความรู้ แหล่งวิจัยและนวัตกรรมที่ทรงคุณค่าจากมหาวิทยาลัย เข้ากับกลไกตลาดของภาคเอกชนและพลังของภาคประชาชน 

โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากภาคการศึกษาสู่ภาคธุรกิจ เพื่อสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับสังคมไทย ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศนวัตกรรมที่เข้มแข็ง เอื้อต่อการเติบโตของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน เราพร้อมร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การสนับสนุนพื้นที่ทดสอบตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้ผลงานวิจัยสามารถเข้าสู่ห่วงโซ่เศรษฐกิจจริงได้อย่างยั่งยืน และเราจะขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพ ยั่งยืน และเท่าทันโลกในอนาคต ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all

สำหรับแนวทางการดำเนินงานและความร่วมมือจากโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 

  1. นำร่อง Circular Economy Model – ปิดวงจรขยะอาหาร หรือ Food Waste จากศูนย์การค้าและศูนย์อาหารเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต สู่การปลูกข้าว Low Carbon หรือข้าวคาร์บอนต่ำ พร้อมจัดจำหน่าย ณ “กาดหลวง” ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ดำเนินการร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ERDI–CMU) และเครือข่ายธุรกิจเพื่อการจัดการสภาพภูมิอากาศประเทศไทย (ThaiCBN) โดยเซ็นทรัลพัฒนานำโมเดลคัดแยกเศษอาหารจากศูนย์การค้าเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นก๊าซชีวภาพ (Compressed Biomethane Gas: CBG) ผลิตไฟฟ้าและเชื้อเพลิงทดแทน ขณะที่กากตะกอนที่เหลือจากการผลิตนำกลับมาใช้เป็นวัสดุปลูกและปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเพาะปลูกข้าวคาร์บอนต่ำและพืชผักปลอดสารเคมี โดยผลผลิตที่นำกลับมาจำหน่ายจริงที่ “กาดหลวง” ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ถือเป็นการสร้างคุณค่าร่วมในทุกขั้นตอนและเป็นการปิดวงจรเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG Economy) อย่างเป็นรูปธรรม โครงการนี้สามารถนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์แล้วกว่า 180 ตัน (เฉลี่ย 1.5 ตันต่อวัน) และจำหน่ายข้าวอินทรีย์ได้กว่า 200 กิโลกรัม นับตั้งแต่ริเริ่มดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2567 เป็นต้นมา 
  2. ต่อยอด และเชื่อมโยงความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา สู่การสร้างถนนสีเขียว หรือ Green Road – ถนนรักษ์โลกจากพลาสติกรีไซเคิลแห่งแรกในภาคใต้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล กระบี่ โดยความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (MRDI–CMU) กับเทศบาลเมืองกระบี่ นำขยะพลาสติกเหลือใช้ จำนวน 2.5 ตันและไบโอซาร์ (Biochar) 5.8 ตัน ที่ผลิตจากชีวมวลพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มาเป็นส่วนผสมหลักในการก่อสร้าง ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 25.89 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ 1,250 ต้นต่อปี 
  3. จุดประกายธุรกิจใหม่ ผ่านนวัตกรรมเพื่อคนรายย่อย ผ่านโครงการ Start-up & SME Empowerment เซ็นทรัลพัฒนาร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP–CMU) สนับสนุนผู้ประกอบการนวัตกรรมความยั่งยืน และผู้เช่าร้านค้าในศูนย์การค้า ให้เข้าถึงเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มสมัยใหม่ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การพัฒนาทักษะแรงงาน และยกระดับคุณภาพการให้บริการ ความร่วมมือนี้มุ่งสร้าง Business Ecosystem ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการ ชุมชน และลูกค้าเข้าด้วยกันอย่างยั่งยืน 

ในขณะเดียวกัน เครือข่ายธุรกิจเพื่อการจัดการสภาพภูมิอากาศประเทศไทย (ThaiCBN) มีบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ร่วมขับเคลื่อนโครงการด้าน Climate Action กับเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อพัฒนานวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนและโมเดล Net Zero ที่สามารถขยายผลในระดับประเทศในอนาคต การดำเนินโครงการทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้เพียงทำกิจกรรม CSR แบบครั้งคราว แต่ได้สร้างระบบนิเวศธุรกิจเพื่อสังคม (Sustainable & Social Business Ecosystem) ที่บูรณาการเข้ากับธุรกิจหลักอย่างแท้จริง ผ่านแนวคิด Sustainovation เพื่อผลักดันให้ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของผู้คน ติดตามความเคลื่อนไหวเซ็นทรัลพัฒนาคลิก https://www.centralpattana.co.th/th/shopping/shopping-update/lifestyle-activities

#CentralPattana #เซ็นทรัลพัฒนา #Imaginingbetterfuturesforall 

- Advertisement -