
FPI พลิกบทบาทสู่ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ผนึกกำลังโครงการ “JUMP+” ขับเคลื่อนการเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วย “Dual Loop Model” ชู 3 แผนหลัก สร้างรากฐานธุรกิจ–ธรรมาภิบาล–สิ่งแวดล้อมยั่งยืน
บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เดินหน้าเสริมบทบาทใหม่ ร่วมเป็น “ที่ปรึกษาโครงการ JUMP+” เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนองค์กรไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิด Dual Loop Model ในการแปลงกลยุทธ์สู่การปฏิบัติจริงผ่านแผนพัฒนาธุรกิจ 3 มิติ ครอบคลุมการสร้างกำไร ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
นายสมพลธนาดำรงศักดิ์ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัทฟอร์จูนพาร์ทอินดัสตรี้จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่าบริษัทฯเดินหน้าขยายบทบาทจากผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สู่การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในตลาดทุนด้วยการเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาใน “โครงการ JUMP+” เพื่อร่วมผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับบริษัทจดทะเบียนและคู่ค้าทางธุรกิจไทย
“การเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาในโครงการ JUMP+ ถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของเราในการสร้าง “กลไกขับเคลื่อนการเติบโต” ให้แก่พันธมิตรในทุกมิติ โดยนำแนวคิด Dual Loop Model เป็นเครื่องสำคัญที่ใช้ในการออกแบบกลยุทธ์องค์กร ซึ่งเชื่อมโยงจากวงจร ”The Brain” เป็นการออกแบบกลยุทธ์องค์กรไปสู่วงจร “The Body “ เป็นการลงมือปฏิบัติภายใต้กรอบวินัย 4SX เพื่อให้แผนงานเชิงกลยุทธ์ถูกถ่ายทอดสู่ระดับทีมจริงและวัดผลได้”
นายสมพลกล่าวว่าในฐานะที่ปรึกษา FPI จะร่วมกับสมาชิกโครงการในการพัฒนาแผนหลัก 3 ด้านได้แก่
1. แผนธุรกิจ (Business Plan) ออกแบบแนวทางการเติบโตระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2569–2571) มุ่งสร้างความแข็งแกร่งด้านกำไร ประสิทธิภาพ และความมั่นคงทางการเงิน พร้อมวาง “เส้นทางการเติบโต” ที่ชัดเจนในระยะยาว
2. แผนธรรมาภิบาล (Governance Plan) ยกระดับการบริหารองค์กรสู่มาตรฐานสากลภายใต้หลักโปร่งใส ตรวจสอบได้ เสริมมาตรการต้านคอร์รัปชัน และรับมือความเสี่ยงยุคดิจิทัล เช่น AI Governance และ Cybersecurity
3. แผนด้านสิ่งแวดล้อม (Climate Action Plan) เตรียมความพร้อมองค์กรสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก (GHG Inventory) และวางแผนลดคาร์บอน (Decarbonization Roadmap) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว
ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ FPI กล่าวอีกว่า “โครงการ JUMP+” ไม่ได้มุ่งเพียงสร้างกำไรระยะสั้นแต่เป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวโดยผสานแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งเข้ากับธรรมาภิบาลโปร่งใสและแนวทางอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อผลักดันให้องค์กรไทยสามารถยกระดับศักยภาพการแข่งขันและเติบโตอย่างสมดุลในทุกมิติ