บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

SINO-THAI ENGINEERING AND CONSTRUCTION 4Q64 กำไรฟื้น..รอลุ้นผลประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อขยาย

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +45.2%

Close Jan 18, 2022 Price (THB) 14.80

12M Target (THB) 21.50

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • 1Q65 รอผลประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อขยาย STEC เข้าร่วมประมูลพร้อม CK ทั้ง 6 สัญญา คาดบริษัทมีโอกาสได้รับงานอย่างน้อย 1-2 สัญญา
  • ปี 2565 รอประมูลงานใหม่โครงการจากภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย มอเตอร์เวย์ คาดเห็นกรอบเวลาที่ชัดเจนภายในปี

Our View

  • 4Q64 คาดผลประกอบการเร่ิมฟื้นตัวจาก 3Q64 ประเมินกำไร 210 ล้านบาท (+54% QoQ,-27%YoY)
  • งานในมือยังสูง คาดยกไปปี 2565 8 หมื่นล้านบาท คาดในปี 2565 จะมีงานเพิ่มขึ้นเข้าสู่ระดับแสนล้านบาท จากงานใหม่ที่ได้รับ และงานท่ีอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจากโครงการอู่ตะเภาวงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท

ปัจจัยเสี่ยง งานประมูลที่ล่าช้า/ราคาวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มกดดันกำไร/การแพร่ระบาด COVID-19

คาด 4Q64 กำไรโตดีรายไตรมาส

ใน 4Q64 เราคาด STEC จะมีกำไรปกติ 210 ล้านบาท (+54% QoQ, -27% YoY) เห็นการเติบโตจากรายไตรมาส (3Q64) พอควรหลังการ Lockdown และปิดแคมป์คนงานจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ไม่สามารถทำงานระหว่างทำได้ตามปกติ โดยใน 4Q64 เริ่มดำเนินงานได้ปกติ ส่งผลต่อรายได้จากงานก่อสร้างและค่าเช่า 8.5 พันล้านบาท (+41% QoQ, 4% YoY) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นทำได้ราว 4.5% ใกล้เคียงรายไตรมาส (364) น้อยกว่าเมื่อเทียบกับรายปี (4Q63) ที่ 5.6% ทั้งนี้ผลประกอบการโดยรวมของปี 2564 ยังอยู่ในกรอบประมาณการ

งานในมือยังสูง … ได้งานใหม่ช่วยหนุน

ในปี 2564 STEC ปิดท้ายของปี รับงานใหม่จากโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่ง STEC ร่วมกับพันธมิตร CK 2 เส้นทาง จากวงเงินก่อสร้างโดยรวมที่ 4.6 หมื่นล้านบาท โดย STEC จะได้วงเงินก่อสร้างโดยรวม 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากโครงการงาว-เชียงราย (สัญญาที่ 2) 1 หมื่นล้านบาท สัดส่วนจากมูลค่างานราว 41% และเส้นทางเชียงรายเชียงของ (สัญญาที่ 3) สัดส่วนจากมูลค่ารวมราว 39% อยู่ที่ 7 พันล้านบาท ทำให้งานในมือของ STEC ณ สิ้นปีราว 8 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ยังงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญามูลค่าสูงอีก 1 งาน คือ งานสนามบินอู่ตะเภา วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาทภายในปี 2565

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรามอง STEC มีปัจจัยบวกหนุนจาก (1) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 ฟื้นตัวรายไตรมาส (3Q64) หลัง COVID-19 (2) คาดหมายโอกาสได้รับจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายที่ร่วมประกวดราคาพร้อมกับ CK ตามกรอบภาครัฐเปิดซองประมูล และได้ชื่อผู้รับงานใน 1Q65 ทั้งนี้ ระหว่างปีมีประเด็นติดตาม คือ งานประมูลภาครัฐจากโครงการที่ต่อเนื่อง ทั้งจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีส้ม งานมอเตอร์เวย์ ฯลฯ (3) แนวโน้มที่ดีจากการเข้าถือหุ้นใน GULF (1.88% จำนวน 220 ล้านหุ้น) จากผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตส่งผลดีต่อ STEC จากเงินปันผลรับ และมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ตามราคาตลาด (ณ ราคาปัจจุบัน STEC มีมูลค่าแฝงกำไรต่อหุ้นเพิ่มราว 5.7 บาท) เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 1.2 พันล้านบาท เติบโต 51% YoY ประกอบกับฐานะทางการเงินที่ยังแข็งแรง เป็น Net cash Company ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 21.50 บาท (อ้างอิง PBV 0.50SD ที่ 2.1 เท่า) ปัจจุบัน บริษัทซื้อขายในระดับราคา PBV เพียง 1.52X เท่า น้อยกว่า PBV เฉลี่ย 5 ปีที่ 2.5X

- Advertisement -