ผลประกอบการยังเป็นปัจจัยหลักในช่วงนี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 109 จุด (-0.2%) ขณะที่ S&P500, Nasdag ก็ปิดในแดนลบเช่นกัน รับแรงกดดันจากหุ้น Meta, MS ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.1% ได้แรงหนุนจากการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

Market Outlook

ฝั่งสหรัฐฯ ยังคงไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆประกาศออกมา เนื่องจากอยู่ในช่วงภาวะปิดหน่วยงาน นักลงทุนหันไปให้น้ำหนักกับผลประกอบการ 3Q25 ที่ทยอยรายงานออกมาอย่าง META , MS หรือแม้กระทั่ง Eli Lilly อย่าง META มีการบันทึกรายการพิเศษมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Eli lilly กำไรดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ช่วยหนุนราคาหุ้นเมื่อคืน +3.8% และ Alphabet ที่กำไรดีกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ +2.5% ส่วนสินทรัพย์อื่นๆ อย่างทองค่ำเริ่มกลับมาฟื้นตัว แต่ Bond Yield ค่อนข้างทรงตัว และเงินบาทกลับมาแข็งค่าทดสอบระดับ 32.3 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ จากก่อนหน้าที่ 32.9 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ 

สำหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆ นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ 3Q25 แต่มีรายงานจาก KBANK ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนด้วยวงเงิน 8,800 ล้าน ช่วยหนุนราคาหุ้นวานนี้ +3.6% และ DELTA ที่ตลาดหลักทรัพย์ตัดสินใจให้ติด Cash Balance ระดับที่ 1 จนถึงวันที่ 20 พ.ย. อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดบ้างในระยะสั้น แต่จากสถิติมักบ่งชี้ว่า DELTA เคลื่อนไหวสอดคล้องกับ Tech ในสหรัฐฯ หาก Tech สหรัฐฯ ไปต่อ ก็เชื่อว่า DELTA จะปรับลงเพียงระยะสั้นเท่านั้น และสถิติการติด Cash Balance รอบก่อนก็พบว่าราคาหุ้นปรับขึ้นมา 

วันนี้รอติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยจากธนาคารแห่งประเทศไทยและดุลบัญชีเดินสะพัด  ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1300 – 1325 ตลาดอาจเผชิญแรงกดดันเชิงจิตวิทยาจากหุ้นสหรัฐฯ และ DELTA ที่ติด Cash จะสร้างความผันผวนกับราคาหุ้นที่จะกระทบกับดัชนี เนื่องจากมีมูลค่ากิจการอันดับแรกของ SET ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นเป็นรายตัวในหุ้นที่คาดว่าจะได้เม็ดเงินจาก DELTA อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)

2H25 ผลประกอบการมีโอกาสเห็นการเพิ่มขึ้นจาก 1H25 ได้ทั้งจากการเปิดศูนย์ใหม่และการโอนคอนโดในช่วงปลายปี โดยเรายังคงกำไรสุทธิทั้งปีที่ 17,258 ล้านบาท นอกจากนี้ราคาหุ้นยังเแรงหนุนจากการที่ CPN ประกาศซื้อหุ้นดีนวงเงิน 5,000 ล้านบาท

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)

ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่จำกัดการขยายตัวของสินเชื่อ และคุณภาพสินเชื่ออาจ อ่อนแอลง SCB เพิ่มความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษรวม 3 พันลบ. ใน 9M2E รองรับความผันผวน และอาจพิจารณากลับเป็นรายได้ในอนาคตหากสถานการณ์คลี่คลายลงนอกจากนี้ กลยุทธ์การนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดีส่งผลให้ Cost to income ratio ทรงตัวราว 40% เราคาดกำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโต 10%

- Advertisement -