KS Daily View 31 ต.ค. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,310-1,325 จุด จากภาพเชิงบวกในประเทศหลัง กระทรวงการคลังปรับคาดการณ์ GDP ปี 2025 โต 2.4% จากเดิม 2.2% หลังปรับประมาณการ GDP ในครึ่งหลัง แนะนำ KTB และ AMATA

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.99%, Nasdaq Composite ลดลง 1.58%, และ Dow Jones ลดลง 0.23% จากการปรับลดลงของ Meta และ Microsoft ร่วง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังต้องรับมือกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่ดูเข้มงวดมากขึ้นต่อนโยบายการเงิน

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,314.65 จุดลดลง -0.99 จุด (-0.08%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักโดยเฉพาะ DELTA ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,310-1,325 จุด จากภาพเชิงบวกในประเทศหลัง กระทรวงการคลังปรับคาดการณ์ GDP ปี 2025 โต 2.4% จากเดิม 2.2% หลังปรับประมาณการ GDP ในครึ่งหลังคาดว่าจะขยายตัว 1.8% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 1.6% โดยมีแรงหนุนจากการส่งออกเดือนกันยายนที่ขยายตัวถึง 19% และมาตรการกระตุ้น คนละครึ่งพลัส ที่จะช่วยหนุนการเติบโตในครึ่งปีหลัง ในขณะเดียวกันภาพของต่างประเทศดูผ่อนคลายขึ้น หลังการประชุม สหรับและจีนเป็นไปได้ด้วยดี ช่วยผ่อนคลายความกังวลทางการค้าขึ้น  ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งใน3Q25 อย่าง KTB และ มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง AMATA หลังยอดขอรับการส่งเสริม BOI ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. การประชุม Trump พบ Xi Jinping ที่เกาหลีใต้ เป็นไปได้ด้วยดี โดย Trump ประกาศลดภาษีสินค้าเกี่ยวข้องกับ Fentanyl จาก 20% เหลือ 10% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงเหลือประมาณ 47% +/- โดยจีนเลื่อนการควบคุมส่งออก Rare earth ออกไปเป็นเวลาหนึ่งปี พร้อมกับการกลับมานำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐ 12 ล้านตันในปีนี้และ 25ล้านต้น/ปี ถึง 2028 อีกทั้งทำข้อตกลงยกเลิกการเก็บภาษีเข้าท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งเป็นเวลาหนึ่งปี มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับกลุ่มส่งออก
  • กระทรวงการคลังปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2025 โต 2.4% จากเดิม 2.2% หลังปรับประมาณการ GDP ในครึ่งหลังคาดว่าจะขยายตัว 1.8% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 1.6% โดยมีแรงหนุนจากการส่งออกเดือนกันยายนที่ขยายตัวถึง 19% และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ เช่น การเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 22,000 ล้านบาท โครงการ คนละครึ่ง พลัส มูลค่า 88,000 ล้านบาท มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (Front Load) มองเป็นบวกกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
  • BOI เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติโครงการของบริษัท การ์มิน ชลบุรี จำกัด ในเครือ Garmin Ltd. (สวิตเซอร์แลนด์) มูลค่าลงทุน 3,000 ล้านบาท เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เช่น สมาร์ทวอชและ อุปกรณ์นำทางอัจฉริยะสำหรับยานยนต์และการเดินเรือ โดยโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัด ชลบุรี และจะเป็นฐานการผลิตแห่งแรกของ Garmin ในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2026 มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ AMATA และ WHA
  • AOT มีมติให้เดินหน้าเจรจากับบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เพื่อแก้ไขปัญหาสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดอากรในสนามบินต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายบริหารใช้ผลการศึกษาเป็นกรอบในการเจรจา และเตรียมตั้งคณะกรรมการเจรจาเพื่อเริ่มหารือกับคิง เพาเวอร์ในเดือนพฤศจิกายนนี้
  • 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เตรียมเสนอรัฐบาลออกมาตรการ “6+1” เพื่อพยุงตลาด ได้แก่ 1) ลดค่าธรรมเนียมโอน–จดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท ขยายถึง 30 มิ.ย. 2026 2) มาตรการค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย 3) กำหนดดอกเบี้ยตามความเสี่ยงผู้กู้ 4) ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 50% นาน 1–2 ปี 5) แก้หนี้นอกระบบด้วยระบบ Warehouse Debt 6) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5% เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ และเศรษฐกิจในภาพรวม มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่าง AP SIRI SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • KTB: ราคาพื้นฐาน 31.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB หลังรายงานกำไร 3Q25 ที่ 1.46 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 31% QoQ และ 32% YoY ผลประกอบการสูงกว่าคาด 18% และสอดคล้องกับประมาณการของตลาด กำไรที่สูงกว่าคาดเกิดจากกำไรจากการลงทุนที่รับรู้ได้สูงกว่าคาดและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Opex) ต่ำกว่าคาด 7% ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีจำกัดในช่วงเวลาที่เหลือโดยประเมิน terminal rate ในการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1% เทียบกับระดับปัจจุบันที่ 1.50% ที่ช่วยลดแรงกดดันในกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้เราประเมิณ KTB มีโอกาสในการทำ capital management เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่ม payout ratio เองก็ตาม

  • AMATA: ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AMATA หลัง BOI เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 (ม.ค.–ก.ย.)มียอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนรวม 2,622 โครงการ เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 1.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 94% โดยบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมแล้วกว่า 2,400 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ที่จะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายที่ดินในอนาคต ในขณะเดียวกันบริษัทเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ายอดขายที่ดินใน 4Q25 จะดีขึ้นอย่างมากเนื่องจากลูกค้าเป้าหมายจำนวนหนึ่งครอบคลุมพื้นที่ 500 ไร่ในไทยและ 200 ไร่ในเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะซื้อที่ดินรวมถึงบริษัทพัฒนาศูนย์ข้อมูล (data center) ในไทยจำนวน 200 ไร่ นอกจากนี้ AMATA ยังมีที่ดินอีกกว่า 300 ไร่ที่อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้าย

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (NBS Manufacturing PMI) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.6 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.8 จุด
- Advertisement -