บล.พาย:
ITC: I-Tail Corporation PCL
3Q25 กำไรดีกว่าคาดเล็กน้อย
เราปรับแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับไปใช้มูลค่าเหมาะสมปี 26 แทนที่ 20.4 บาท (18 XPER’26E) มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย เกิดจากยอดขายในกลุ่มขนมสัตว์เลี้ยง (Pet Treats) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้สัดส่วนสินค้าในกลุ่ม Premium มีสัดส่วนสูงถึง 55% สำหรับแนวโน้มในปี 26 ผู้บริหารตั้งเป้าเติบโตในระดับ 6-9% แม้จะดูต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ แต่จะได้รับผลดีจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น หลังจากสินค้าใหม่เป็นกลุ่ม Premium มาก รวมถึงเริ่มรับรู้ผลดีจากแผนการปรับปรุงบริษัทที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 24 แล้ว โดยเราคาดกำไรสทธิที่ 3,396 ล้านบาท (+14%YoY)
3Q25 กำไรสุทธิ 812 ล้านบาท (-17%YoY, +17%QoQ)
- ITC รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q25 ที่ 812 ล้านบาท (-17%YoY, +17%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นกำไร 25 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ระดับ 787 ล้านบาท ดีกว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย การลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เกิดจากกำไรขันต้นที่ลดลงและค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาปรับปรุงบริษัท ส่วนการฟื้นตัวจาก 2Q25 เกิดจากการเติบโตในกลุ่มขนมสัตว์เลียง (Treats)
- รายได้ที่ 4,721 ล้านบาท (+6%YoY, +6%QoQ) กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหลังจากชะลอไปในช่วง 2Q25 เติบโตดีจากยอดขายในสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าใหม่ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ สินค้าในกลุ่มขนมสัตว์เลี้ยง (+62%YoY, +42%QoQ)
- กำไรขั้นต้นที่ 25.4% ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q25 แต่ลดลงจาก 30% ใน 3Q24 เพราะปีก่อนมีการบันทึกกลับสินค้าคงเหลือ ทั้งนี้กำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ถูกกดดันหลักจากค่าเงินบาทและการให้ส่วนลดแก่คู่ค้า เพราะลดผลกระทบจากภาษี ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 484 ล้านบาท (+18%YoY, +7%QoQ) เพิ่มจากที่กล่าวไปข้างต้น
- รวม 9M25 ITC มีกำไรสุทธิ 2,184 ล้านบาท (-22%YoY) คิดเป็นสัดส่วน 73% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 2,991 ล้านบาท
4Q25 รายได้ยังดี แต่อาจจะไม่โตมากนัก
ภาพรวมในช่วง 4Q25 ในแง่คำสั่งซื้อจากลูกค้ายังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของสินค้าเดิมและสินค้าใหม่ที่เตรียมตัวส่งให้ลูกค้า อย่างไรก็ตามการเติบโตอาจจะไม่มากนักเหมือนในอดีตที่ยอดขายช่วงไตรมาส 4 จะเติบโตขึ้นจากไตรมาส 3 เหมือน 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคำสั่งซื้อบางส่วนมีการเร่งส่งไปมากในช่วง 3Q25 แล้ว (สูงกว่าที่ลูกค้าให้ประมาณการมาตอนเริ่มสั่ง)
สำหรับการให้ความช่วยเหลือคู่ค้าเพื่อลดผลกระทบจากภาษีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทางบริษัทคาดว่ารูปแบบการให้ความช่วยเหลือเป็นส่วนลดจากราคาขายเหมือนช่วง 2H25 จะเปลี่ยนเป็นการให้ส่วนลดจากผลของการลดต้นทุนของ ITC แทน ทำให้ในแง่มูลค่าอาจจะไม่สูงเท่า และหนุนให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นได้ เนื่องจากสินค้าใหม่ที่ขายดีในกลุ่มขนมสัตว์เลี้ยง จัดเป็นสินค้าในกลุ่ม Premium ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
คงกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิมก่อน
เรายังคงกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิม เนื่องจากผู้บริหารมองว่ารายได้ในช่วง 4Q25 อาจจะไม่เติบโตมากนัก สำหรับปี 26 เบื้องต้นผู้บริหารคาดรายได้เติบโตในระดับ 6-9% ซึ่งปรับลดจากในอดีตที่คาดการเติบโตมากกว่า 10% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข่งขันที่มากขึ้น และผลกระทบด้านภาษีแต่สิ่งที่จะดีขึ้นคืออัตรากำไรขั้นต้นหลังจากมีสัดส่วนสินค้าในกลุ่ม Premium มากขึ้นตามที่กล่าวไป ทั้งนี้เราคาดกำไรปี 26 อยู่ที่ 3,396 ล้านบาท (+14%YoY) สำหรับคำแนะนำการลงทุน ด้วยผลประกอบการที่ออกมาดี รวมกับภาพการเติบโตในอนาคตยังมี่โอกาสอีกมาก ดังนั้นเรา จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” โดยปรับไปใช้มูลค่าเหมาะสมปี 26 ที่ 20.4 บาท (18XPER’26E)








