บล.พาย:
KTB: Krungthai Bank PCL
ความท้าทายสูงขึ้นในปี 2026
คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 29.50 บาท (เดิม 28.00 บาท) สะท้อนความสามารถทำกำไรที่ดีขึ้น ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.85x PBV’26E แม้ผลการดำเนินงานจากธุรกิจธนาคารจะชะลอตัว กดดันจากการชะลอตัวของสินเชื่อ และ NIM ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่การเพิ่มรายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจ Wealth management และธุรกิจด้านต่างประเทศ (Global market) ช่วยลดทอนผลกระทบได้บางส่วน ดังนั้น คาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับสูงขึ้น 7% อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะยังส่งผลลบให้ NIM ปรับลดลงในปี 2026 และรายได้ที่มีใช่ดอกเบียลดลงจากฐานที่สูง คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2026 จะปรับลดลง 3% โดยคาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 1.60 บาทในปี 2025-26 คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 5.9% ในปี 2025-26
การประชุมนักวิเคราะห์
- ธนาคารคาดเศรษฐกิจไทยโตราว 2% ในปี 2025 และ กนง. ปรับลดอัตราดอดเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. เหลือ 1.25% สิ้นปี 2025
- แนวโน้มสินเชื่อในปี 2025 อาจปรับลดลงเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ทรงตัว YoY จากปี 2024 เพราะมีการชำระคืนหนี้ของลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่และภาครัฐ ขณะที่ลูกค้ารายย่อยเติบโตจากสินเชื่อที่อยู่อาศัย
- NIM ในปี 2025 อยู่ราว 2.85% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2.9-3.0% ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และในปี 2026 การควบคุมต้นทุนทำได้ดีขึ้นจากที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิ (ATI) ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยสูง และเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษครบกำหนด ธนาคารไม่มีแผนดำเนินต่อจะช่วยลดภาระต้นทุนการเงินลงได้ในปี 2026
- NPL ratio ควบคุมได้ตามเป้าหมายไม่เกิน 3.25% และ Credit cost ลดลงที่ราว 115 bps ในปี 2025 ทำให้ Credit cost จะลดลงได้ใน 4Q และแนวโน้มปรับลดลงได้ในปี 2026 ช่วยลดผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงได้
- รายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากใน 3Q25 จากกำไรพอร์ตลงทุนและกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL แต่รายได้ส่วนนี้อาจลดลงใน 4Q25 ไม่สูงเหมือนในช่วง 2Q-3Q ธนาคารมีแผนเพิ่มรายได้จากธุรกิจของ Wealth management และ Global market ต่อเนื่อง เพราะฐานที่ต่ำ และโอกาสขยายฐานลูกค้ามากขึ้น
- การบริหารเงินกองทุนและรักษา ROE ที่ 10% KTB ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลใน 1H25 ที่ 0.43 บาท/หุ้น นอกจากนี้พยายามรักษาความสม่ำเสมอในการจ่ายเงินปันผลธนาคาร พิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งรอจังหวะที่เหมาะสม
NIM และคำไรพอร์ตลงทุน อ่อนแอกดดันกำไรปี 2026
เราปรับประมาณการกำไรในปี 2025-26 เพิ่มขึ้น 2% จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับสูงขึ้น 7% ในปี 2025 แต่ในปี 2026 เราคาดกำไรสุทธิในปี 2026 ลดลง 3% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และความผันผวนจากการบันทึกกำไรในรายการ FVTPL เพราะฐานที่สูงในปี 2025








