Daily Focus Selective Buy on Earnings and Low PER/PBV
ตลาดหุ้นวานนี้:
SET Index ยังคงพักตัวลงตามคาด ปิดลบอีกเล็กน้อย 2.03 จุด ยังคงถูกกดดันจาก Sentiment ลบจาก Bond Yield สหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สถาบันในประเทศยังคงขายต่อเนื่องในตลาดหุ้นอีก 3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1 พันลบ. (และ Long SET50 Index Futures 5.4 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้:
เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัวสร้างฐาน โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,650 จุด บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังขาดปัจจัยบวกใหม่ และนักลงทุนยังติดตาม Bond Yield สหรัฐฯที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น รวมถึงการประชุม FED สัปดาห์หน้าว่าจะมีการส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่ดึงตัวขึ้นเร็วมากน้อยเพียงใดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ปัจจัยในประเทศนอกเหนือจากการประกาศผลประกอบการ 4Q21 ของกลุ่มธนาคารปลายสัปดาห์นี้ สถานการณ์การเมืองเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น หลังพรรคพลังประชารัฐขับกลุ่มส.ส. 21 คน ของร.อ. ธรรมนัสออกจากพรรค ซึ่งส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และโอกาสยุบสภามากขึ้น ซึ่งเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่ม Domestic Play ในเชิงกลยุทธ์ยังเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตั วแนวโน้มกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง และมี PER/PBV ไม่สูง
กลยุทธ์: เลือกลงทุนโดยเน้นหุ้น PER/PBV ต่ำ และหุ้นที่คาดกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : CK, EA, HMPRO, KBANK, ORI
หุ้นเด่นวันนี้: JWD
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท
- แนวโน้มกำไร 4Q21 ยังอยู่ในระดับสูงแข็งแกร่งต่อเนื่องจากธุรกิจ Logistic ที่ยังแข็งแกร่งหนุนกำไรปกติทั้งปี 2021 + 25% Y-Y ทั้งที่มี Lockdown (กำไรสุทธิ +80% Y-Y)
- กำไรปี 2022 ที่คาด +29% Y-Y อาจมี upside จาก Synergy เต็มปีที่ได้จากการลงทุน 6 ดีลในปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น ESCO, Fuze Post (Cold chain express), MyCloud Fulfillment, Alpha (จับมือกับ ORI) และมีแผนสร้างห้องเย็นเพิ่มขยายบริการสู่ธุรกิจ Health connect (Health care Logistic solution) รวมถึงธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชาที่จะฟื้นเร็วหลังโควิด และมีแผน IPO บ.ย่อย (JWD Transport) ราว 4Q22
- แนวรับ 20.50 // 20 บาท แนวต้าน 222 // 22.50 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค แต่บางลงเหลือ US$ 33 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$ 92 ล้าน แต่ไหลเข้าเกาหลีใต้และอาเซียนส่วนใหญ่นำโดยไทย สูงสุด US$ 32 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทางไหลออก แต่ชะลอตัวลง โดยยังต้องจับตานโยบายการเงินของ FED ที่จะดึงตัวขึ้น โดยเฉพาะสัญญาณจากการประชุมสัปดาห์หน้า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) กลุ่มไก่ กกร. ประกาศให้ไก่เป็นสินค้าควบคุมห้ามขึ้นราคา ต้องมีการขออนุญาตและแจ้งต้านทุนก่อน รอ ครม. อนุมัติสัปดาห์หน้า ถือเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มไก่อย่าง GFPT TFG
(0) TACC คาดกำไร 4Q21 ทำ New High ใกล้เคียง 3Q21 Flat Q-Q, +9% Y-Y หนุนทั้งปี 2021 +13% Y-Y เป้าหมายรายได้ปี 2022 ของบริษัทอยู่ที่โต 10-15% Y-Y ทั้งการฟื้นตัวจาก COVID-19 การออกสินค้าใหม่ และเพิ่มสัดส่วนรายได้ Non 7-11 แต่เรามีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นจากราคาวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2022 ลงเหลือ 9% Y-Y โดยปรับสมมติฐาน Gross Margin ลง ส่งผลให้ราคาเป้าหมายขยับลงเป็น 8.70 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อลงทุน”
(+) SYNEX ผู้บริหารมั่นใจถึงแนวโน้มรายได้ใน 4Q21 ที่คาดทำ All Time High หนุนโดยยอดขายกลุ่มสินค้า Apple ที่เปิดตัวต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา สินค้า WFH รวมถึง Gaming และ IOT ให้ขายดีต่อเนื่องส่งผลให้ Margin คาดยังอยู่ในระดับสูงเราคาดกำไรปกติปี 2021 + 35% Y-Y และโดดเด่นต่อเนื่องในปี 2022 อีก +27% Y-Y ยังคงราคาเป้าหมายที่ 34 บาท ราคาหุ้นพักตัวทำให้ Upside กว้างขึ้น จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อเก็งกำไร”
(0) CHAYO คาดกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง -14% Q-Q, +69% Y-Y จากการเก็บหนี้ที่เร่งตัวขึ้น หนุนทั้งปี 2021 +12% Y-Y ส่วนแนวโน้มปี 2022 คาดเร่งตัวขึ้นตามภาพเศรษฐกิจ และการเก็บหนี้ที่ดีขึ้น ธุรกิจสินเชื่อที่เติบโต รวมถึง Upside จากการ JV กับธนาคาร 2 แห่งในการร่วมกันบริหาร NPL อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกำไรปี 2022 ลงเป็น +17% Y-Y สะท้อนการซื้อ NPL ที่ลดลง และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 16.60 บาท อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 339.82 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 35,028.65 จุด จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ กดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและดัชนี Nasdaq เข้าสู่การปรับฐาน
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเล็กน้อย หนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหุ้นรายตัว
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม โดยตลาดหุ้นโตเกียวฟื้นตัวหลังปรับลงแรงวานนี้ อย่างไรก็ดี ภาพรวมยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงติดตามธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ในเช้านี้
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์หรือ 1.8% ปิดที่ 86.96 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานเกิดเหตุระเบิดท่อส่งน้ำมันของตุรกี ทําให้ระงับการล่าเลียงนํ้ามันจากอิรักไปยังตุรกี รวมถึง IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2022 อีก 200,000 บาร์เรล/วัน เป็น 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 30.8 ดอลลาร์หรือ 1.7% ปิดที่ 1,843.2 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 981.44 / +5.23