เก่งหลังเกมส์

SET Index หลุด 1300 จุด  -10.26 จุด ปิดตลาด 1298.6 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.04 หมื่นล้านบาท   ปรับลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นฝั่งเอเซียเกือบทุกประเทศที่ลงในทางเดียวกัน  Sector ที่ปรับขึ้น หลักๆคือ กลุ่มเหล็ก , กลุ่มเกษตร TU  ในทางตรงข้ามกลุ่มที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆคือ  กลุ่มพลังงาน  GULF, PTT, PTTEP กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC, IVL  ฯลฯ

หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น 

TU +3.1% 

ปรับเพิ่มรับรายงาน กำไรสุทธิ 3Q25 ดีกว่าที่เราและตลาดคาด ที่ 1,304 ลบ. (-7%y-y, +3%q-q)  โดยเราได้มีการปรับเพิ่ม  ประมาณการกำไรสุทธิ 2025F-26F เพิ่มขึ้น +19%/+20% มาอยู่ที่ 4,612 ลบ. (-8%y-y) และ 5,385 ลบ. (+18%y-y) ตามลำดับ จากค่าใช้จ่ายโครงการ Sonar จะจบในปี 2025 เลือกเป็น Top pick กลุ่มฯ คู่กับ GFPT

BH +1.76% 

หุ้นปรับขึ้น เก็งงบ 3Q25 คาดกำไรสุทธิ +4%y-y +9%q-q ทำสถิติสูงสุดใหม่ มีปัจจัยบวกรายได้เติบโตดีขึ้นจากผลบวก Intensity เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ นอกจากนี้ ศักยภาพรักษาโรคที่มีความซับซ้อนด้วยนวัตกรรมขั้นสูง ทำให้ลูกค้าของ BH มีความอ่อนไหวต่อราคาน้อย รวมทั้งเด่นในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ขณะที่ผู้ป่วยไทยปี 2025F น่าจะกลับมาเด่นกว่าปกติช่วง 4Q25F หลังปีนี้ โรคไข้หวัดระบาดช้ากว่าปีปกติ โดย BH มี Valuation จูงใจ อิงราคาหุ้นซื้อ-ขาย PE ปี 2025 ที่ 18 เท่าเทียบกับ PER ต่ำกว่า – 2 SD ราคาเป้าหมาย 217.0 บาท 

IVL -2.7% PTTGC -7.88% 

กลุ่มปิโตรเคมีปรับลง จากทิศทางผลประกอบการ 3Q25 ไม่เด่น อิง IVL คาด แนวโน้มขาดทุนปกติ 3Q25F ราว -1,123 ลบ. แย่ลงทั้ง y-y q-q (อาจขาดทุนหนักกว่าคาดหากมีรายการพิเศษเข้ามา) และแย่กว่าที่เคยประเมิน จากอัตรากำไรที่ต่ำ แรงกดดันจากสงครามการค้าหนักขึ้น ฉุด integrated PET (Asia) ฯลฯ   โดยเรายังแนะนำชะลอการลงทุน และหาจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง 

KTB  +1.83%  CHAYO +1.68% 

ปรับเพิ่มขึ้นแรงหนุนมาจากรับกระแสข่าวบวก ครม.เห็นชอบในหลักการของมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนรายย่อยที่มีวงเงินต่ำกว่า 100,000 บาทต่อราย โครงการนี้มุ่งเป้าแก้ไขหนี้เสีย (NPLs) ที่เป็นภาระหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน มองบวกต่อกลุ่มธนาคาร  เน้น KTB(TP – 30.0) เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อดังกล่าวมากสุด 26% และกลุ่มการเงิน  เน้น MTC(TP – 58.0)   มีสินเชื่อ 10% ผสานกับเก็งงบ 3Q25 จะออกมาเด่น

SCC -2%

ภาพระยะสั้นยังมีความเสี่ยงจากการแข่งขันสูงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาเพิ่มใน 4Q25, กระแสการปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศของทั่วโลก, ชะลอการซื้อจากกังวลสงครามการค้า ซึ่งอาจกดดันให้ SCC optimize การผลิตมากขึ้น และทำให้ปริมาณขายต่ำกว่าคาด ทั้งนี้เราคงคำแนะนำ Neutral ต่อ SCC ที่ TP26F = 218 บาท/หุ้น

- Advertisement -