บล.พาย:
MTC: Muangthai Capital PCL
กำไรสุทธิใน 3Q25 เติบโตตามคาด
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 48.00 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 16%, Terminal growth 5%) อิงจาก 2.0x PBV’26E และ 13.5x PE’26E ผลการดำเนินงานใน 3Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+16% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.6% เราคงประมาณการคาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะขยายตัว 14% ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q25 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวล้อกับสินเชื่อที่แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงาน 3Q25 แข็งแกร่งตามคาด
- กำไรสุทธิงวด 3Q25 ออกมาตามคาดที่ 1.7 พันล้านบาท (+16% YoY, +5% QoQ) กำไรสุทธิเติบโต YoY และ QoQ หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวจากการขยายสินเชื่อ (+9% YoY, +4% QoQ) และสำรองหนี้ฯ ปรับลดลง YoY จากความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดีต่อเนื่อง
- ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ทรงตัว QoQ ที่ 14.1% (-57 bps YoY)
- ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สินเชื่อขยายตัวอัตราชะลอตัว ที่ 3.2% QoQ (+4.3% QoQ ใน 2Q) ส่วนใหญ่จากสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียน ขณะที่มองว่าสินเชื่อเติบโตต่อเนื่องใน 4Q25 ทำให้ในปี 2025 สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่ 13.3% YoY โดดเด่นในกลุ่มไมโครไฟแนนซ์
- ด้วยกลยุทธ์การขยายสินเชื่ออย่างรัดกุม และความสามารถในการติดตามหนี้ที่ดีขึ้น NPL ratio ทรงตัวที่ 2.6% เป็นไปตามเป้าหมาย NPL ratio <3.2% สิ้นปี 2025 และ Coverage ratio ทรงตัวที่ 139.7% เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของงบดุล ทั้งนี้ Stage 2 ratio ทรงตัว QoQ ที่ 7.6%
- เปิดสาขาใหม่ 176 สาขา ใน 3Q25 ทำให้จำนวนสาขารวมเพิ่มเป็น 8,609 แห่ง และมีสินเชื่อต่อสาขาเพิ่มเป็นราว 21 ล้านบาท (+1% QoQ) สะท้อนว่ากลยุทธ์การเปิดสาขาใหม่ยังมีประสิทธิภาพ
การเติบโตกำไรแข็งแกร่งที่ 13.5% CAGR (2025-27)
- กำไรสุทธิใน 9M25 เติบโต 14% YoY ที่ 4.9 พันล้านบาท คิดเป็น 74% ของกำไรในปี 2025 โดยคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q25 จะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ Q0Q หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว
- คาดกำไรสุทธิปี 2025 เติบโตต่อเนื่อง 14% YoY หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นล้อกับสินเชื่อที่ขยายตัว ขณะที่ Credit cost แนวโน้มผ่อนคลายลงจากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย คาด Credit cost ลดลงที่ 245/241 bps ในปี 2025-26
- ผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยลดลงทำให้ต้นทุนการเงินปรับลดลงใน 2H25 และชัดเจนมากขึ้นในปี 2026 ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันกำไรขยายตัว 2 หลักได้ต่อเนื่องในปี 2026-27 ทำให้คาดมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง 13.5% CAGR (2025-27)







