บล.กรุงศรีฯ:
MAJOR (Buy, TP 11.7 บาท) เรามอง Slightly Negative ต่อข้อมูลที่ได้จากงานประชุมนักวิเคราะห์วันนี้
- บริษัทฯ หันมาโฟกัส “อัตรากำไร” มากกว่า “ปริมาณผู้ชม” เพราะเชื่อว่าหากหนังดีก็จะมีคนเข้ามาดูมากขึ้นเอง โดยเป็นการปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ชมปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการเลือกหนังในการรับชมมากขึ้น
- บริษัทฯ มีแผนสำรวจสาขาโรงหนังที่มีโรงเกิน 10 โรง/สาขา หากรายได้ไม่ดี หรือต้นทุนสูง ก็จะพิจารณาคืนพื้นที่ (บางส่วน) และลดจำนวนโรงลงให้สอดคล้องกับ Demand เพื่อลดต้นทุน ทั้งนี้ บริษัทฯ เริ่มกลยุทธ์นี้แล้วที่สาขา “พารากอน” และ “ไอคอนสยาม”
- เรามองการปรับตัวข้างต้นทำให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรดีขึ้น แต่อาจทำให้โอกาสการเติบโตในอนาคตมีข้อจำกัดมากขึ้น เรามีแนวโน้มปรับลดราคาเป้าหมายลงเพื่อสะท้อนโอกาสการขยายตัวในอนาคตที่ลดลง
- อย่างไรก็ตาม เรามองราคาหุ้น MAJOR ลดลง -56%ytd มาซื้อขายที่ P/E’26F เพียง 9x (ต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยอดีต) สะท้อนประเด็นข้างต้นแล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างสร้าง Growth Driver ใหม่ด้วยการปั้นธุรกิจ Popcorn (ช่องทางจำหน่ายนอกโรงหนัง) ร่วมกับ TKN อีกทั้งล่าสุดยังมีโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงิน<600 ลบ. จำนวน<76 ล้านหุ้น (พ.ย.25-พ.ค.26) เพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) ให้ผู้ถือหุ้น เราจึงคงคำแนะนำ Buy (TP 11.7 บาท) ด้วย Valution ที่ค่อนข้างถูก ลุ้นงวด 1Q26 มีหนังไทยฟอร์มใหญ่ฉายหลายเรื่อง เช่น สัปเหร่อ2 และ นาคี3 เป็นต้น เป็น Sentiment บวกต่อหุ้น







