จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในอัตราร้อยละ 108 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 จากไตรมาสก่อน

จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสสาม ปี 2568 ยังคงเติบโต โดยขณะที่มีรายได้จากการขายและบริการ 1,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.6 จากร้อยละ 19.9 ในไตรมาสเดียวกันปีก่อน และร้อยละ 20.4 ในไตรมาสก่อน กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 108 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 จากไตรมาสก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็นร้อยละ 7.2 จากร้อยละ 4.0 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และร้อยละ 5.5 ในไตรมาสก่อน

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า แม้ว่าเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อน รวมถึงบริษัทฯ ได้พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความคล่องตัวในการดำเนินงาน ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน รวมทั้งมีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน

นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตในไตรมาส 3/2568 โดยรายได้จากการขายและบริการ 1,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน กำไรขั้นต้น 345 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสก่อน อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.6 จากร้อยละ 19.9 ในไตรมาสเดียวกันปีก่อน และร้อยละ 20.4 ในไตรมาสก่อน กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 108 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 จากไตรมาสก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็นร้อยละ 7.2 จากร้อยละ 4.0 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และร้อยละ 5.5 ในไตรมาสก่อน สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามกลยุทธ์ในการดำเนินงานของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในระดับ 6,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการสร้างรายได้เติบโต 5-15% เพิ่มขึ้นจากปี 2567 หากไม่นับรวมโครงการขนาดใหญ่ด้านฮาร์ดแวร์ (Big Deal) ที่เกิดขึ้นในปี 2567 นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 19.5-20.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน พร้อมเป้าหมายรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) ระดับ 40-50% และเป้าหมาย Backlog ที่ระดับสูงกว่า 5,500-6,500 ล้านบาท

จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของบริษัทฯ โดยไม่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน และมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งมากกว่า 900 ล้านบาท ที่พร้อมรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ

บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับสูงสุด 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ประจำปี 2568 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการประเมินครอบคลุมเกณฑ์ 5 ข้อ ได้แก่ สิทธิของผู้ถือหุ้น การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

“นอกจากนี้ G-Able ยังได้รับ 100 คะแนนเต็ม หรือ “ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง” เพิ่มขึ้นจาก 99 คะแนน ในปีก่อนในโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน หรือ AGM Checklist โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) โดยเน้นการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม เช่น การให้ข้อมูลครบถ้วนทั้งภาษาไทยและอังกฤษบนเว็บไซต์ การประชุมในวันเวลาเหมาะสม พร้อมทั้งกรรมการและผู้บริหารให้ความสำคัญกับการจัดประชุมผู้ถือหุ้น

โดยสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในธรรมาภิบาลและการบริหารแบบยั่งยืนตามหลัก ESG ของ G-Able ที่ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน ขณะที่บริษัทจะนำผลการประเมินนี้ไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาด้านธรรมาภิบาล เพื่อเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” ดร.ชัยยุทธ กล่าวสรุป

- Advertisement -