เผชิญแรงกดดันรอบด้านทั้งในประเทศและนอกประเทศ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 797 จุด (-1.6%) ถูกคดดันจากความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของ FED หลัง FED กังวลกับเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.48% ได้แรงหนุนจากมุมมองบวกที่ว่าหน่วยงานในสหรัฐฯ จะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมา ทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามให้หน่วยงานรัฐบาลเตรียมจะกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง หลังจากนี้นักลงทุนต้องเตรียมรับมือกับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะเริ่มกลับมารายงานอีกครั้ง ซึ่งจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินรวมถึงสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนอาจเป็นเพียงแค่การ Take Profit มากกว่า และเรื่องของดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังไม่น่าจะรีบเป็นประเด็นต่อการลงทุนช่วงนี้ อย่างน้อยรอให้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ก่อนค่อยมาประเมินว่าทิศทางดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไรต่อ จากนี้ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 50% และ 50% ที่ FED อาจจะคงดอกเบี้ยและลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อทิศทางดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาข้อมูลในอดีตล่าสุดจะพบว่าตลาดแรงงานมีสัญญาณค่อยๆ ชะลอตัวต่อเนื่อง และทิศทางเงินเฟ้อยังไม่ได้เห็นการเร่งตัวอย่างมีนัยยะ โดยเมื่อคืนดัชนี VIX Index เร่งตัวขึ้นเล็กน้อยราคาทองคำเริ่มทรงตัว US Dollar อ่อนค่า แต่ปัจจัยเช่นนี้อาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก พักฐานระยะสั้นจนกว่าจะมีข่าวดีใหม่ๆ
ด้านปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังให้น้ำหนักกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q25 อย่างวานนี้บริษัทอย่าง OKJ ประกาศรายได้ 3Q25 ขยายตัว 12%YoY แต่ EBITDA -28%YoY และกำไรสุทธิ -71%YoY บริษัทระบุว่าเป็นผลจากกำลังซื้อที่อ่อนตัวลง และ MAGURO ประกาศรายได้ขยายตัว 47%YoY EBIT +31%YoY พร้อมกับกำไร +30%YoY ค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเทียบกับร้านอาหารในแบรนด์อื่นๆ วันนี้ยังแนะติดตามผลประกอบการที่จะทยอยรายงานออกมาเช่นเดิมคาดว่าจะเป็นวันสุดท้ายของการประกาศ
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1270 – 1295 เผชิญแรงกดดันรอบด้านทั้งจาก ต่างประเทศการปรับลงของหัน Technology จะเป็นปิจจัยส่งผลต่อ DELTA ผสานกับกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ภาพรวมไม่ค่อยดีจะเป็นอีกปัจจัยจำกัด Upside ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่ประมาทกับการลงทุนแม้สถิติ 4Q จะดีก็ตามแต่ระยะสั้นเสี่ยงเจอการปรับฐาน เน้นเลือกเป็นรายตัวในหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว อาทิ ค้าปลีก (CPALL) ธนาคารพาณิชย์ (SCB) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC TIDLOR) โรงพยาบาล (BDMS) เครื่องดื่ม (TACC)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)
มุมมองบวกต่อ 4Q25 คาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต YoY จากผู้ป่วยโรคละบาดที่เติบโตล่าช้ากว่าปี 2024 (รายได้ผู้ป่วยไทยเดือนต.ค. +8% YoY) และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ต่อเนื่อง โดยผู้บริหารตั้งเป้าปี 2025 รายได้เติบโตที่ 4% YoY และ EBITDA Margin ที่ 24%
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
SCB เพิ่มความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษรวม 3 พันลบ. ใน 9M25 รองรับความผันผวน และอาจพิจารณากลับเป็นรายได้ในอนาคตหากสถานการณ์คลี่คลายลง นอกจากนี้ กลยุทธ์การนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดีส่งผลให้ Cost to income ratio ทรงตัวราว 40% เราคาดกำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโต 10%









