บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
YGGdrazil Group (YGG.BK / YGG TB) การพัฒนาเกมใหม่จะเป็น game changer
Event
ทบทวนแนวโน้มธุรกิจ
Impact ผู้นําในตลาดด้าน content ดิจิทัลสําหรับภาพยนตร์ และโฆษณาโดยใช้ VFX
YGGdrazil เป็นผู้ผลิต content ดิจิทัลระดับ hi-end ซึ่งใช้ Visual Effects (VFX), animation, และสตูดิโอ gaming CG สําหรับโฆษณา, ภาพยนตร์, และเกม โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับแนวหน้า บริษัทได้รับรางวัล VFX ยอดเยี่ยมจากหลายเวทีทั้งในประเทศและระดับโลก ทำให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตของรายได้จากภาพยนตร์และโฆษณา โดยใช้ VFX และ animation จากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทโต 20% CAGR ในขณะที่กำไรสุทธิโต 50% โดยรายได้แบ่งเป็น 1.) Virtual effects – โฆษณาและภาพยนตร์ 38% 2.) ภาพยนตร์ animation 37% 3.) เกมและนวัตกรรม 25% ซึ่งรายได้จากในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 30% และรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 70%
การเติบโตของ streaming platform ออนไลน์เป็นโอกาสในการเติบโต
การเติบโตอย่างรวดเร็วของช่องทาง streaming ออนไลน์ (Disney, Netflix, Amazon Prime, Hulu, HBO max ฯลฯ ) จะส่งผลดีกับ YGG เพราะจุดแข็งจากการเป็นผู้ผลิต content ดิจิทัลระดับ high-end ซึ่งใช้ Visual Effects (VFX) และ animation, มีสตูดิโอกราฟฟิกระดับ high-end, และได้รับรางวัล ซึ่งแสดงถึงความพึงพอใจของลูกค้าจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ตาม agency houses ระดับแนวหน้าทั่วโลก ซึ่งการที่ platform เหล่านี้เติบโตขึ้น จะทำให้บริษัทมีรายได้จาก VFX และ animation สำหรับภาพยนตร์และโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบัน บริษัทมี backlog งานในมือประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับปี 2565 …
ขยายธุรกิจเพิ่มเติมในด้านของ animation และเกม
บริษัทได้นําความรู้ในด้าน animation และ visual effect มารวมกันเพื่อพัฒนา game animation และเปิดตัว “Home Sweet Home” เกม online สำหรับเล่นบน PC แบบมีผู้เล่นหลายคน ซึ่งประสบความสําเร็จในระดับโลก โดยมียอดขายประมาณ 80-90 ล้านบาท (สําหรับการ download ใน 120 ประเทศทั่วโลก และมีการขายใบอนุญาตในประเทศจีน) ทั้งนี้ความสำเร็จของเกมนี้ เปิดช่องให้บริษัทสามารถจัดสรรทรัพยากรเพิ่มลงมาในธุรกิจเกมได้มากขึ้น เพื่อเกาะกระแสใหม่ของเทคโนโลยี virtual โดยเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ผนึกพันธมิตรกับ MACO (ลงทุนฝ่ายละ 100 ล้านบาท) เพื่อสร้าง content ดิจิทัลและออนไลน์ & เกมมือถือ โดยจะเปิดตัว 1 เกมในปี 2565 และอีก 2 เกมในปี 2566 ทั้งนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจเกมเพิ่มขึ้นจาก 7.5% ของรายได้ในปี 2563 เป็น 25% ในงวด 9M64 โดยมี GPM อยู่ที่ 50% (จาก 30% ของธุรกิจ VFX และ animation)
พัฒนาเกมบน blockchain เพื่อการเติบโตของ NFT-game changer
YGG ขยับขึ้นมาผลิต content ในรูปแบบ animation สำหรับ platform แบบ play-to-earn ที่ชื่อ “Zookeeper” ซึ่งใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อพัฒนาเนื้อหาเกม blockchain ของตัวเอง โดย YGG ทุ่มทรัพยากร (จ้างพนักงานใหม่ 100 คน) ในการสร้างเรื่องราวของเกมนี้เพื่อเกาะกระแส metaverse, NFT และ digital asset โดยบริษัทกำลังมองหาพันธมิตรใหม่เพื่อเข้ามาร่วมในโครงการนี้ โดยตั้งเป้าจะเปิดตัวเกมนี้ในปี 2566 ซึ่งหากประสบความสำเร็จเ กมนี้จะทำให้แนวโน้มระยะยาวของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
Risk งบลงทุน (CAPEX) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (opex) ของเกมที่ใช้เทคโนโลยี blockchain, ขยายธุรกิจเกมไม่ได้