น่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาดได้บ้าง
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 493 จุด (+1%) หลังประธาน FED สาขา New York ออกมาสนับสนุนการลดดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.3% รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันโลกอาจเพิ่มขึ้นจากข้อตกลงระหว่างรัสเซียและยูเครน
Market Outlook
วันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ประกาศ PMI เบื้องต้นในฝั่งของภาคผลิตและภาคบริการที่มากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ พร้อมกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่าดีขึ้นจากเดือนก่อนได้แรงหนุนจากรัฐบาลของสหรัฐฯ ยุติการ Shut Down หน่วยงานในสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคบางส่วนยังกังวลกับราคาสินค้าที่ยังสูง ในขณะเดียวกันผู้บริโภคที่ถือหุ้นเริ่มมีความเชื้อมั่นน้อยลงตามราคาหุ้นสหรัฐฯ ที่เริ่มปรับฐาน หากไปดูทิศทาง US Bond Yield ล่าสุดเริมเห็นการปรับลง ซึ่งดีกับตลาดหุ้นในภาพรวมประเมินการปรับลงของ Bond Yield อาจเป็นไปได้ว่ามาจากอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่ขยับขึ้นประกอบกับเจ้าหน้าที่ FED บางสาขาออกมาสนับสนุนการลดดอกเบี้ย CME FED Watch ล่าสุดเริ่มกลับมาเชื่อว่า FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. ด้วยน้ำหนักราว 71% หากเป็นเช่นนี้มองบวกกับตลาดหุ้น
ในภาพรวมปัจจัยในประเทศวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับลง 2.1% แต่หากเปรียบเทียบกับภูมิภาคก็ถือว่าใกล้เคียง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3.18 พันล้านบาท หุ้นที่กดดันดัชนีมากสุดได้แก่ DELTA มีผลต่อดัชนีราว 15 จุด สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับลงของ Technology ในสหรัฐฯ แต่วันศุกร์ Technology ในสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวอาจหนุนหุ้นไทยระยะสั้น คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามโดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจ
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1250 – 1265 น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้บ้างจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์ ประกอบกับนักลงทุนน่าจะมีความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยจากการที่เงินเฟ้อไทยและเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำ ขณะเดียวกันประเทศไทยจะเตรียมเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง จากสถิติตลาดมักตอบรับเชิงบวกประกอบกับ Dow Jones future กลับมาแกว่งบวก 0.2% เป็นจิตวิทยาเชิงบวก กลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (SCB) ค้าปลีก (CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) High Season การท่องเที่ยวดีกับกลุ่มสายการบิน (BA) และโรงแรม (CENTEL)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
กำไรสุทธิออกมาที่ 12.1 พันล้านบาท (+10% YoY, -6% QoQ) ดีกว่าคาดราว 5% เนื่องจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL สูงกว่าคาด
BA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.10 บาท)
ปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่ออกมาดีมากมีกำไรสุทธิสูงถึง 1,041 ล้านบาท (+55%YoY, +159%QoQ) จากการเป็นช่วง High Seasons ของเส้นทางเกาะสมุย ขณะที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศของ BA ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ในปี 25 นี้ยังเห็นการเติบโตได้ แม้ภาพรวมนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยจะปรับตัวลดลง








