บล.พาย:
ERW: The Erawan Group PCL
กำไรสุทธิ 3Q25 อ่อนแอ YoY และ QoQ
คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับมูลค่าพื้นฐานไปเป็นปี 2026 ที่ 2.40 บาท (เดิม 2.90 บาท) จากการปรับเป้าผลประกอบการเติบโตปี 2025-26 ลดลง โดยรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 57 ล้านบาท (-55% YoY, -10% QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ด้วยมีบันทึกรายการพิเศษค่าใช้จ่ายซ่อมแชมโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และ EBITDA Margin อ่อนตัวที่ 27% (-3 ppts YoY, -1 ppts QoQ) ทั้งนี้ ผลประกอบการใน 4Q25 คาดฟื้นตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่มีแนวโน้มลดลง YoY ต่อเนื้อง ด้วยการเติบโตในเดือน ต.ค. มีรายได้ต่อห้องพักรวม (RevPar) ที่อ่อนแอ -7% YoY ขณะที่มีกำหนดเปิด Hop Inn ในไทย 2 แห่ง (158 ห้อง) แต่มองว่าในช่วงต้นอาจยังมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ารายได้ขณะที่ยังไม่มีความคืบหน้าการต่อสัญญา Grand Hyatt
รายงานกำไรสุทธิใน 3Q25 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ
กำไรสุทธิใน 3Q25 อยู่ที่ 57 ล้านบาท (-55% YoY, -10% QoQ) จาก 1) รายได้โรงแรมอ่อนตัว -4% YoY ด้วยอัตราการเข้าพัก (Occupancy) ทรงตัวขณะที่อัตราราคาที่พักต่อคืนปรับลดลง 9% YoY อุด RevPar -10% YoY และ 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อ่อนตัวที่ 40% (-2 ppts Yor) ขณะที่ SG&A/Sales ปรับตัวสูงขึ้นที่ 28% (+2 ppts YoY, +2 ppts QoQ) โดยมีบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการซ่อมแซมอาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว
คาดผลประกอบการใน 4Q25 เติบโต QoQ แต่อ่อนแอ YoY
- เรามองกำไรปกติ 4Q24 ยังมีโอกาสเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาลแต่มองยังอ่อนแอ YoY ด้วย 1) รายงานการเติบโตในเดือน ต.ค. RevPar อ่อนแอ -7% YoY จาก Occupancy ที่ทรงตัว ขณะที่ราคาห้องพักต่อคืนเฉลี่ยลดลง -7% YoY และ 2) คาดการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวยังชะลอตัว ประกอบกับนโยบายกระตุ้นภาครัฐ “เที่ยวดี มีคืน” (29 ต.ค. ถึง 15 ธ.ค.) คาดส่งเสริมการท่องเที่ยวเล็กน้อย แต่ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญ
Key Financial Summary
- ผู้บริหารปรับเป้าการเติบโตรายได้โรงแรมปี 2025 ลดลงเป็นทรงตัว (เดิมเติบโต 3-5% YoY) โดยกลุ่ม Luxury to Economy – 5% YoY (เดิมทรงตัว) และ Budget +18% (เดิม +20%)
- ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26 ลงที่ 771 ล้านบาท (-7% จากเดิม) และ 885 ล้านบาท (-11% จากเดิม) ตามลำดับ จากคาดจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงที่ 33 ล้านคน และ 34 ล้านคน ตามลำดับ โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวสะสม -7% YoY (1 ม.ค. – 16 พ.ย. 2025) ขณะที่คาด์ EBITDA Margin ลดลงที่ 31%-32% และกำหนดการปรับปรุง Grand Hyatt คาดกดดันรายได้กลุ่ม Luxury กลางปี 2026
คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2026 ที่ 2.40 บาท
คงคำแนะนำ “ถือ” ประเมินมูลค่าปี 2026 ที่ 2.40 บาท (เดิม 2.90 บาท) จากการปรับลดคาดผลประกอบการปี 2025-26 และปรับลดการเติบโตระยะยาว (TG) เหลือ 1% (เดิม 2%) สอดคล้องกับแนวโน้มการปรับลดคาดการเติบโต GDP ไทยปี 2026 ที่ 1.6% (-2 ppts จากเดือนก.ค.) โดยคำนวนด้วยวิธีการคิดลดกระแสเงินสด (DCF) บน WACC 8% ซื้อขาย EV/EBITDA’26 ที่ 8x และ PE’26 12x (-1.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ 11x และ 20x ตามลำดับ







