บล.พาย:

FINANCE: เติบโตต่อเนื่องในปี 2026 (OVERWEIGHT)

TOP PICK: KTC, MTC

กำไรสุทธิรวมใน 3Q25 ของกลุ่มไมโครไฟแนนซ์อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท (+12% YoY, +5% QoQ) ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมใน 9M25 อยู่ที่ 18.2 พันลบ. (+8% YoY) ขณะที่ NPL ratio ทรงตัวที่ 2.5% สำหรับใน 4Q25 คาดกำไรสุทธิรวมขยายตัว YoY หนนจากการขยายตัวของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียม ดังนั้น คาดกำไรสุทธิรวมเติบโต 7%-8% ในปี 2025-26 อานิสงค์จาก (1) สินเชื่อขยายตัวต่อเนื่อง (2) Credit cost ลดลง และ (3) NIM ขยายตัวในปี 2026 จากต้นทุนการเงินลดลง ด้านคุณภาพสินเชื่อ แม้มีความเปาะบางจากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง เพราะลูกค้าของกลุ่มไมโครไฟแนนซ์ค่อนข้างอ่อนไหวต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ และประสิทธิภาพการติดตามหนี้ คาดหนี้เสียอยู่ระดับควบคุมได้ และ NPL ratio ทรงตัว ด้านการลงทุน ปรับน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” KTC MTC เป็น Top pick

กำไรสุทธิรวมใน 3Q25 เติบโต YoY และ QoQ คุณภาพสินเชื่อทรงตัว

  • กลุ่มไมโครไฟแนนซ์ 4 แห่ง (KTC, MTC, SAWAD, TIDLOR) รายงานกำไรสุทธิรวมที่ 6.4 พันล้านบาท (+12% YoY, +5% QoQ) หนุนจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว (2) รายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยขยายตัว และ (3) สำรองหนี้ฯ ลดลง โดยบริษัททั้ง 4 แห่งรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ TIDLOR โดดเด่นที่สุด (+42% YoY, +9% QoQ)
  • สินเชื่อรวมขยายตัวต่อเนื่อง 1.6% QoQ (+4.5% YoY) จากการเติบโตสินเชื่อของ MTC และ TIDLOR
  • คุณภาพสินเชื่อทรงตัว แม้หนี้เสียรวมเพิ่มขึ้น แต่เพราะสินเชื่อขยายตัวเช่นกัน ทำให้ NPL ratio ของกลุ่มไมโครไฟแนนซ์ทรงตัว QoQ ที่ 2.5% ทรงตัวระดับนี้ 10 ไตรมาสติดต่อกัน (2Q23-3Q25)

แนวโน้มกำไรรวมใน 4Q25 เติบโต YoY ส่งผลกำไรในปี 2025 เติบโต 7%

  • เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องใน 4Q25 กดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐ และการบริโภคของเสถียรภาพทางการเมือง อย่างไรก็ดี ความต้องการสินเชื่อจากกลุ่มลูกหนี้รายย่อย และผู้ประกอบการขนาดเล็กมีอย่างต่อเนื่อง กอปรกับแนวโน้ม ต้นทุนการเงินลดลงจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เราคาดว่ากำไรสุทธิรวมของกลุ่มฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY แต่อาจอ่อนตัวลง QoQ จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน และสำรองหนี้ฯ ที่เพิ่มขึ้น
  • ในปี 2025 คาดว่ากำไรสุทธิรวมจะเติบโตต่อเนื่องที่ 7% YoY (2024: +5%) หนุนจาก จาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวล้อกับการขยายตัวของสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตราว 4.4% (2) รายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้นจากค่าธรรมเนียมนายหน้าธุรกิจประกันวินาศภัย และ (3) สำรองหนี้ฯ ลดลง และการขาดทุนรถยืดลดลงจากราคาของรถยนต์มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยคาดว่า TIDLOR จะมีกำไรเติบโตโดดเด่น 21% ในปี 2025 นอกจากนี้ คาดกำไรในปี 2026 จะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง 9% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมปรับสูงขึ้น บริษัทไมโครไฟแนนซ์ทั้ง 5 แห่งจะรายงานกำไรเติบโต นำโดย MTC ที่คาดกำไรเติบโตสูงราว 13%
  • ด้านการจ่ายเงินปันผล กลุ่มไมโครไฟแนนช์ระดมสภาพคล่องจากแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน และออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อนำมาขยายการเติบโตเป็นหลัก ดังนั้น อัตราการจ่ายเงินปันผลจะไม่สูงมากเหมือนกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7%-3.9% ในปี 2025-26

ปรับน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” KTC MTC Top pick

  • เราปรับน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” จาก “เท่ากับตลาด” เนื่องจาก (1) การเติบโตต่อเนื่องของกำไรสูงต่อเนื่องในปี 2025-26 (2) คุณภาพสินเชื้อมีแนวโน้มทรงตัว (3) อานิสงค์จากอัตราดอกเบียลดลงส่งผลบวกต่อ NIM ปรับเพิ่มขึ้น และ (4) Valuation ที่น่าสนใจทำให้มี Downside risk จำกัดจากราคาหุ้นในปัจจุบัน กลุ่มฯ ซื้อขายเฉลี่ย ที่ 1.3x PBV’26E (ใกล้เคียง -1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 3.3x) และ 9x PE’26E PBV’26E (ต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 18.5x)
  • กลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียน เลือก MTC (1) การเติบโตต่อเนื่องของกำไรโดดเด่นในปี 2026 และ (2) ความสามารถการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี และงบดุลแกร่ง
  • กลุ่มบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล เลือก KTC (1) งบดุลแข็งแกร่ง หนี้เสียต่ำ และ Coverage ratio สูงรองรับความผันผวนในอนาคต และ (2) ผลตอบแทนเงินปั้นผลสูงราว 5% ในปี 2026 เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ ที่ 3.9%
- Advertisement -