คาดหวังการลดดอกเบี้ยจะช่วยตลาดหุ้นไทยจากนี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 314 จุด (+0.67%) ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Technology พร้อมกับความคาดหวังว่า FED จะลดดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1% ตลาดคาดหวังอุปสงค์จะดีขึ้นหาก FED ทำการลดดอกเบี้ย

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.16 แสนราย ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.26 แสนราย พร้อมกับคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ขยายตัว 0.6%MoM ดีกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.2%MoM แต่ในขณะเดียวกันพบว่าสต๊อกน้ำมันดิบอยู่ที่ 2.8 ล้านบาร์เรล ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล โดยรวมตัวเลขเศรษฐกิจประกาศดีกว่าประเมินไว้ แต่นักลงทุนก็ดูจะไม่ได้กังวลมากเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย ซึ่งเมื่อคืนยังพบเห็นการปรับลงของ US Bond Yield รุ่นอายุ 2,10 ปีและ CME FED Watch ให้น้ำหนักสูงราว 85% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. กดดันเงินบาทแข็งค่าสู่ระดับ 32.19 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ระยะสั้นดีกับกระแสเงินทุนต่างชาติที่มีโอกาสไหลเข้าทั้งตราสารหนี้และตลาดทุน

สำหรับ SET INDEX เริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิติดต่อกัน 2 วันทำการรวมแล้ว 2 พันล้านบาท วานนี้ Sector ที่โดดเด่นสุดจะได้แค่ธนาคารพาณิชย์ (KTB SCB TTB BBL) ปรับขึ้นเด่น อาจชี้ว่านักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจกับกลุ่มนี้ ซึ่งในเชิงปัจจัยพื้นฐานก็น่าสนใจด้วย Valuation ที่ไม่แพง ผสานกับเงินปันผลที่อยู่ระดับ 6-8% พร้อมกับกำไรสุทธิที่ไม่ผันผวน (ขยายตัวหรือลดลงในระดับเล็กน้อย) และดอกเบี้ยที่อาจปรับลงก็เชื่อว่าผลกระทบจำกัด หรือหากในอนาคตเศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวก็จะดีกับฝั่งสินเชื่อรวมถึงกำไรในภาพรวม ในส่วนของน้ำท่วมหาดใหญ่หลายๆ สื่อรายงานตรงกันว่าปริมาณน้ำเริ่มลดลง และปลายสัปดาห์นี้หากไม่เกิดฝนตกในปริมาณมากเชื่อว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ จากนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นพู ซึ่งจะดีกับหุ้นในกลุ่มซ่อมแซมบ้านอย่าง DOHOME HMPRO GLOBAL คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม เพราะสหรัฐฯ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1250 – 1270 ตลาดหุ้นไทยยังไม่น่าจะเคลื่อนไหวได้ไกลจากระดับปัจจุบัน เพราะยังขาดปัจจัยกระตุ้นอย่างมีนัยยะ แต่ก็เชื่อว่าทิศทางยังค่อยๆ ปรับขึ้น หนุนจากความคาดหวังว่าดอกเบี้ยจะลดลงทั้งของไทยและสหรัฐฯ ประกอบกับการท่องเที่ยวกำลังจะเข้าสู่ช่วงปัจจัยฤดูกาล หนุนการบริโภคและการท่องเที่ยว  ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นเลือกเป็นรายตัวในหุ้นที่มีปัจจัยหนุน อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (CPALL DOHOME HMPRO) Theme ดอกเบี้ยปรับลง (MTC SAWAD TIDLOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท)

ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขาย น่าถึงดูดเพียง 14xPE’25E หรือ -2SD ของค่าเฉลี่ยการซื้อขายในรอบ 5 ปี แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง QTD ของ 4Q25 ได้รับผลกระทบจากฐานสูงในปีก่อน เราคาดกำไรสุทธิ 4Q25 จะลดลง YoY ตาม SSSG ที่หดตัว แต่จะฟื้นตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล อย่างไรก็ตาม เรามองว่า SSSG ช่วง 1Q26 มีโอกาสลุ้นดีขึ้น YoY จากมาตรการลดหย่อนของภาครัฐ

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 68.00 บาท)

รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 6.6 พันล้านบาท (+18%YoY) และมีกำไรปกติ 6.5 พันล้านบาท (+4%YoY, -8%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและBB consensus คาด กำไรโต YoY หนุนจากการขยายสาขาและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 10 bps YoY แม้ว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ 7-11 จะลดลง 0.5% YoY

- Advertisement -