บล.กรุงศรีฯ:
กลุ่มอุตสาหกรรม | เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร |
หุ้น | TU |
มูลค่าพื้นฐาน | 25.50 |
คำแนะนำ | BUY |
เราคาดกำไรสุทธิ TU ใน 4Q21F ที่ 2.1พันลบ. (+45% yoy, +9% qoq) จาก (1) ราคาที่สูงขึ้น, (2) ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น, และ (3) ค่าเงินบาทอ่อนค่า เราเห็นแนวโน้มเชิงบวกในปี 2022 หนุนจาก (1) ธุรกิจอาหารแช่แข็งที่ปรับตัวดีขึ้น, และ (2) ธุรกิจ PetCare ที่เติบโตดีต่อเนื่อง ปรับคำแนะนำ ขึ้นเป็น ซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 25.50 บาทต่อหุ้น (จาก 22.60 บาท)
คาดกำไรสุทธิ 4Q เติบโตได้ดี
รายได้ 4Q21F มีแนวโน้มเติบโตได้ดี 15% yoy หนุนจาก (1) ราคาที่สูงขึ้น, (2) ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและ (3) ค่าเงินบาทอ่อนค่า คาดกำไรขั้นต้น 4Q21F เพิ่มเป็น 18.5% จาก 18.0% ใน 3Q21 และ 4Q20 จากธุรกิจอาหารแช่แข็งที่ดีขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 13-14% ใน 4Q จากระดับปกติที่ 10-11% ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายอยู่ในระดับสูงที่ 12.1% จากค่าขนส่งคอนเทนเนอร์ที่สูงขึ้น คาดกำไร TU ใน 4Q21F ที่ 2.1 พันลบ. (+45% yoy, +9%qoq)
ภาพเชิงบวกในปี 2022
หนุนจาก (1) ธุรกิจอาหารแช่แข็งฟื้นตัวตามอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นจากการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารและร้านค้าปลีก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และ (2) โอกาสการเติบโตในธุรกิจ PetCare และธุรกิจคุณค่าอื่น กลยุทธ์ระยะยาวของ TU คือการเพิ่มรายได้จากผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า เช่น ส่วนประกอบที่มีมูลค่าเพิ่มจากสัตว์น้ำ (แคลเซียม, คอลาเจน, น้ำมันทูนา) และโปรจีนทางเลือกอีก 10% ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีกำไรขั้นต้นสูงกว่า 20% ซึ่งจะเพิ่มกำไรขั้นต้นของกลุ่มในระยะยาว นอกจากนี้ TU ยังวางแผน IPO บริษัท i-Tail ใน 3Q22 ซึ่งเป็นบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ PetCare อันดับ 15 ในโลก
ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ 25.5 บาทต่อหุ้น (จาก 22.6 บาท)
เราปรับคาดการณ์กำไรปกติปี FY21F และ FY22F ขึ้น 3% และ 7% เป็น 7.3พันลบ. และ 8.2พันลบ. ตามลำดับ หลังปรับการเติบโตจากยอดขายอาหารแช่แข็งจาก 5% เป็น 12% ในปี FY21F และ 10% ในปี FY22F เราปรับราคาเป้าหมายเป็น 25.50 บาทต่อหุ้นจาก 22.6 บาท จากการ Unlock Value ของ i-Tail ใน 3Q22 เราปรับคำแนะนำ TU ขึ้นเป็น ซื้อ จาก (1) ธุรกิจอาหารแช่แข็งที่ดีขึ้น และ (2) ธุรกิจ PetCare ที่เติบโตดีต่อเนื่อง