KS Daily View 08.12.2025 >>> ลุ้น Fed/ กนง. ไทย ลดดอกเบี้ย ติดตามมาตรการสนับสนุนตลาดทุน/ เม็ดเงินซื้อ Tax Fund หนุนตลาด กรอบ SET วันนี้ 1,295-1,310 จุด แนะนำ CPN, KKP

📊Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ1,270 – 1,290 จุด แนวโน้มตลาดเรามองลุ้นบวกมากกว่าลบ จาก Fed ลดดอกเบี้ยนโยบายช่วยหนุน และ Dot plot ไม่น่าส่งสัญญาณผ่อนคลายปีหน้าน้อยกว่าที่เดิมมองว่าจะลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 1 ครั้ง รวมถึงอาจเห็นกระแสเก็งกำไร กนง. ไทยลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าต่อ กอปรกับประชุม ครม. สัปดาห์นี้ลุ้นเห็นความคืบหน้าในส่วนของมาตรการส่งเสริมการออมและสนับสนุนตลาดทุน โดยรอดูความชัดเจนถึงรายละเอียดโดยเฉพาะจะมีการยกเว้นภาษีเงินปันผลจากการลงทุนผ่านบัญชี ISA อย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้าหรือไม่ ขณะที่ประเด็นความเสี่ยงการเมืองระยะสั้นในประเทศลด บรรยากาศกลับมามีความคาดหวังเห็นรัฐบาลมีเวลาออกมาตรการหนุนเศรษฐกิจฟื้นต่อช่วงโค้งสุดท้าย รวมถึงเม็ดเงินซื้อกองทุนลงทุนช่วงปลายปีเพื่อลดหย่อนภาษีช่วยหนุนตลาด หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์เราเลือก CPN KKP KTB PTTEP AP

📊แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนีวันนี้ปรับตัวขึ้น sideway up ลุ้น Fed และ กนง. ไทย ลดดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงมาตรการสนับสนุนตลาดทุนและเม็ดเงินซื้อกองทุนช่วงปลายปีเพื่อลดหย่อนภาษีช่วยหนุนตลาด ประเมิน SET ซื้อขายในกรอบ 1,295-1,310 จุด

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

PTTEP ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (2569–2573) มูลค่า 1.09 ล้านล้านบาท เพื่อเสริมความมั่นคงพลังงานและการเติบโตระยะยาว ผลักดันโครงการสำคัญในตะวันออกกลาง แอฟริกา และมาเลเซีย ให้เริ่มผลิตตามแผน เดินหน้าลงทุนโครงการลดคาร์บอน รวมถึง CCS แหล่งอาทิตย์ มูลค่าราว 3,865 ล้านบาท มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2593 บนกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน: Drive Value – Decarbonize – Diversify เพื่อสร้างการเติบโตยั่งยืนในอนาคต ทั้งนี้บริษัทตั้งงบปี 2569 รวม 253,027 ล้านบาท ใช้เพิ่มการผลิตในไทยและต่างประเทศ เช่น เอราวัณ บงกช อาทิตย์ มาเลเซีย โอมาน แอลจีเรีย โดยวางเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมปี 2569 ที่ 556,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 8%

✅ธปท. ประกาศขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตไปจนถึง 31 ธ.ค. 2569 จากเดิมสิ้นสุดปลายปี 2568 โดยคงอัตราชำระขั้นต่ำที่ 8% ชั่วคราว เพื่อบรรเทาภาระหนี้ในภาวะรายได้ฟื้นตัวช้า ผู้ที่จ่ายขั้นต่ำ ≥ 8% ได้ เครดิตเงินคืนเทียบเท่าลดดอกเบี้ย 0.25% ทุก 3 เดือน ขณะที่ผู้จ่ายไม่ถึง 8% สามารถปรับโครงสร้างหนี้เป็น สินเชื่อระยะยาว (term loan)รวมถึงยังมีมาตรการเสริม เช่น ปรับโครงสร้างหนี้ก่อน/หลังเป็น NPL คลินิกแก้หนี้ และโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดหนี้เสีย

✅มอเตอร์เอ็กซ์โปยอดจองรถพุ่ง 2.7 หมื่นคันใน 7 วันโดยจากภาพรวมงาน (30 พ.ย.–5 ธ.ค. 2568) รายงานยอดจองรถ ทะลุ 27,000 คัน เติบโต 30–45% จากปีก่อน รถ EV ครองสัดส่วนสูงสุด 52% ตามด้วย ไฮบริด 24.9%, ICE 19%, PHEV 4.1% ผู้จัดงานเผยมั่นใจยอดจองทั้งงานโตได้ 30–40% จากปีก่อน (54,513 คัน) มองปัจจัยช่วยหนุนยอดจองเช่น มาตรการ EV 3.0–3.5 จะสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2568 โดยส่วนลดรัฐจะลดลงปีหน้า (EV3.0 = 150,000 บาท, EV3.5 เหลือ 50,000 บาท + ภาษีสรรพสามิตขึ้นเป็น 10%) ทำให้ผู้บริโภคเร่งซื้อ และค่ายรถเร่งระบายสต๊อก

✅กระทรวงคมนาคมเผยเตรียมเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 รวม 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,488 กม. หลังเปิดสถานีรถไฟลพบุรี 2 ซึ่งเป็นสถานีรถไฟแห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรี โดยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพนี้ เป็นทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในไทย มีระยะทางยาว 19 กิโลเมตร ช่วยลดรถติด อุบัติเหตุ และมลพิษ พร้อม Shuttle Bus ฟรีเชื่อมสถานีเก่า–ใหม่ ทั้งนี้ รมต.กระทรวงคมนาคมกล่าวรัฐบาลให้ความสำคัญระบบรางเพื่อเพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์และการแข่งขันของประเทศ เชื่อมภาคกลาง–เหนือ และส่งเสริมเศรษฐกิจ–ท่องเที่ยว โดยพร้อมเดินหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ต่อเพื่อสานต่อเครือข่ายคมนาคมให้ครอบคลุม

Daily pick

🎯CPN: ราคาพื้นฐาน 72.5 บาท

บริษัทกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงขยายตัว โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ค่าเช่าศูนย์การค้าที่แข็งแกร่ง และแผนการเปิดศูนย์การค้าใหม่หลายแห่ง พื้นที่เช่า (NLA) มีแนวโน้มเติบโต หนุนให้รายได้กลับมาเติบโตสองหลัก ขณะที่อัตราค่าเช่ายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง วินัยในการใช้ CAPEX และโครงการซื้อหุ้นคืน 5 พันลบ.ที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้ CPN มีความแข็งแรงทางการเงินและพร้อมเติบโตต่อผ่านเงินสดภายในและการนำทรัพย์สินเข้าREIT อย่างต่อเนื่อง

🎯KKP: ราคาพื้นฐาน 74.5 บาท

ทิศทางผลประกอบการคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จากผลขาดทุนการขายรถยึดคืนและ ECL ที่ลดลงคาดจะเป็นปัจจัยหนุนกำไรในระยะข้างหน้า หลังสต็อกรถยึดคืนลดลงเหลือต่ำกว่า 2,000 คัน ต่ำสุดในรอบ 3 ปี อีกทั้งคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ก็ดีขึ้น รวมถึงอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 8 ไตรมาสที่ผ่านมาเริ่มคลี่คลาย

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

✅วันจันทร์ ติดตามรายงานตัวเลขส่งออกจีนสำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดขยายตัว 3.8% YoY ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่พลิกเป็นหดตัว -1.1% YoY

✅วันอังคาร ติดตามการให้สัมภาษณ์ของผู้ว่าการธนาคารกลางของญี่ปุ่น BOJ คุณ Kazuo Ueda ที่งานประชุมFinancial Times Global Boardroom Conference ณ กรุงลอนดอน นอกจากนี้ติดตามรายงานตัวเลขงานเปิดใหม่JOLTS Job Openings สำหรับเดือน ก.ย. และ ต.ค. หลังรายงานข้อมูลล่าช้าในช่วงปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดตัวเลขสำหรับเดือน ก.ย. ที่ 7.2 ล้านตำแหน่ง และตัวเลขสำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 7.1ล้านตำแหน่ง

✅วันพุธ ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนสำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.2% YoY ขณะที่ด้านตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ตลาดคาดยังติดลบที่ -2.0% YoY ดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ -2.1% YoYนอกจากนี้ติดตามการเปิดประชุมสมัยวิสามัญของไทยเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในวันที่ 10-11 ธ.ค. และในช่วงข้ามคืนติดตามผลการประชุม FOMC ของ Fed ตลาดคาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps จาก4.00% เป็น 3.75% รวมถึงรอดูการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจ (Dot plot) ซึ่งจะสะท้อนมุมมองในระยะข้างหน้า

✅วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ตลาดคาดจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.91 แสนคน ในสัปดาห์ก่อนหน้าเป็น 2.20 แสนคน รวมถึงรายงานตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ก.ย. ตลาดคาดขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 6.31 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.96 หมื่นล้านดอลลาร์

✅วันศุกร์ ติดตามผลการประชุม ECOFIN meeting หรือคณะมนตรีการเงินของยุโรป ที่มีการจัดประชุม ณ กรุงบรัสเซลส์ รวมถึงติดตามการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่2 ของไทย

- Advertisement -