บล.พาย:
THAI: THAI AIRWAYS INTERNATIONAL PCL
ตัวเลขเดือน ต.ค. ยังเติบโตดี
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมมีประเด็นบวกจากแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q25 ที่คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นได้อย่างมากจาก 3Q25 จากการเข้าสู่ช่วง High Seasons ของภาคการท่องเที่ยว ส่วนเทียบกับปีก่อนเริ่มมีสัญญาณบวกจากตัวเลขผู้โดยสารที่เดือน ต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากปีก่อนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน รวมกับต้นทุนราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องรอสอบถามเพิ่มเติมคือค่าซ่อมบำรุงที่ในไตรมาส 3 ลดลงอย่างมาก สำหรับการตั้งบอร์ดชุดใหม่ที่ล่าสุดศาลแพ่งสั่งระงับการจดทะเบียนเป็นสิ่งที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพิ่มเติม ทั้งนี้เรายังคงกำไรในปี 25 ไว้เท่าเดิมที่ 36,345 ล้านบาท (ส่วนกำไรปกติคาดที่ 32,213 ล้านบาท)
ผู้โดยสารเดือน ต.ค. กลับมาโตได้อีกครั้ง
- ตัวเลผผู้โดยสารของการบินไทยในเดือน ต.ค. อยู่ที่ 1.393 ล้านคน (+0.4%YoY,+15%MoM) กลับมาเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนได้อีกครั้ง หลังจากลดลงในเดือน ก.ค.-ก.ย. โดยเส้นทางที่เติบโตดีขึ้นได้แก่ภูมิภาคยุโรปที่เพิ่มขึ้นถึง 10%YoY,5%MoM สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ต.ค. ที่นักท่องเที่ยวยุโรปเพิ่มขึ้น 8%YoY, 57%MoM ส่วนเส้นทางที่ลดลงคือเส้นทางในประเทศ (-8%YoY, +22%MoM) คาดว่าเกิดจากการแข่งขันที่มากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
- ด้านอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที 77.9% ดีขึ้นจาก 77%ในเดือน ต.ค. 24 และ 73.8% ในเดือน ก.ย. 25 โดยมีเพียงเส้นทางทวีปออสเตรเลียที่มีอัตราบรรทุกลดลง ส่วนเส้นทางอื่นเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศที่แม้ผู้โดยสารจะลดลง แต่กลับมีระดับการบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 91.6% โดยปริมาณการผลิต (ASK) อยู่ที่ 6,019 ล้านกิโลเมตรที่นั่ง (+2%YoY,+5%MoM) ขณะที่การขนส่งอยู่ที่ (RPK) อยู่ที่ 4,687
ล้านกิโลเมตร ผู้โดยสาร (+3%YoY ,+11%MoM)
ได้บอร์ดใหม่รอศาลพิจารณาอีกที
- หลังจากมีการประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่มีการเลือกบอร์ดชุดใหม่เพิ่มเป็น 15 คน จากเดิม 11 คน แล้วนั้น ล่าสุดศาลแพ่งมีการออกคำสั่งให้ระงับการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงบอร์ดชุดใหม่ รวมถึงห้ามบอร์ดชุดใหม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในบริษัท เนื่องจากต้องมีการพิจารณาว่าการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เรามองว่าผลกระทบคือการพิจารณาเรื่องต่างๆ อาจจะล่าช้าออกไปอีก เพราะคณะกรรมการมีไม่เพียงพอตามที่ทางบริษัทเคยให้เหตุผลในการเพิ่มคณะกรรมการไว้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการพิจารณาฝูงบินใหม่ อย่างไรก็ตาม ในแง่การบริหารคาดว่าจะไม่มีผลกระทบใดๆ
ยังคงกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิม ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
- แนวโน้ม 4Q25 เราคาดว่าจะเห็นกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3Q25 ได้จากการเข้าสู่ช่วง High Seasons ของภาคการท่องเที่ยว ส่วนเทียบกับ 4Q24 ต้องติดตามผู้โดยสารในเดือน พ.ย. – ธ.ค. ว่าจะเป็นเช่นใด ปัจจัยบวกที่ยังอยู่คือราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าทั้งปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เราประเมินกำไรทั้งปี ไว้ที่ 36,345 ล้านบาท ส่วนกำไรปกติคาดที่ 32,213 ล้านบาท รวมแล้วเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมและประเมินมูลค่าเหมาะสมอยู่ที่ 10.1 บาท (9.6XPER’26E) ทั้งนี้ความเสี่ยงอีกประการคือการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นที่แปลงหนี้เป็นทุนเข้ามาที่มีต้นทุนต่ำกว่า 3 บาท/หุ้น ซึ่งจะสามารถขายได้ในเดือน ก.พ. 26 เป็นต้นไป








