KS Daily View 24.12.2025 >>> ติดตามตัวเลขส่งออกไทย พ.ย. ตลาดคาด 9% ส่งสัญญาณส่งออกไทยกลับมาแล้ว กรอบ SET index วันนี้ที่ 1,260-1,275 จุด แนะนำ KKP และ ADVANC
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: บรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศเป็นบวก หลังจากที่สหรัฐอเมริการายงาน GDP ใน 3Q25 ครั้งที่สองออกมาที่ 4.3% ดีกว่าที่ตลาดคาด 3.2% ส่งผล sentiment เชิงบวก ส่วนของตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดตลาดที่ 1,271.11 เพิ่มขึ้น 1.43 จุด (+0.11%) นำโดยกลุ่มพลังงาน ขนส่ง และ สื่อสาร ขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวฉุดตลาดไป 6.88 จุด ในวันนี้เราประเมินกรอบ SET index ที่ 1,260-1,275 จุด ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาววันคริสต์มาสถึงปีใหม่
ในส่วนของปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ กระทรวงพาณิชย์มีการรายงานตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.7% YoY ที่แสดงถึงการส่งออกของไทยกลับมาเร่งตัวขึ้น โดยคาดว่ากลุ่มสิ้นค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่องตามภาพของต่างประเทศอย่างไต้หวันและเกาหลีที่ตัวเลขส่งออกได้แรงหนุนจากความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในส่วนของกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำ KKP จากแนวโน้มของ ROE ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งยังมีช่องว่างที่จะเพิ่มขึ้นอัตราการจ่ายคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นเป็น 80% และ ADVANC จากแนวโน้มของกำไรจากผลประกอบการหลัก 4Q25 เติบโตขึ้น YoY และ QoQ ประกอบกับ บริษัทจะประกาศเงินปันผลครึ่งหลังปี 2025 ที่ 7.89 บาทต่อหุ้น
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน
- กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกเดือน พ.ย. พุ่งขึ้น 39.5% YoY แตะ 72.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี และเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 จากแรงหนุนความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะกลุ่มโทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวโดดเด่น มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ DELTA
- คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีมติปรับลดเงินกองทุนน้ำมันสำหรับดีเซลลง 20 สตางค์ต่อลิตร และขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันลดราคาขายปลีกดีเซลและเบนซินหน้าปั๊มลง 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2025 ส่งผลให้ราคาดีเซลเหลือ 30.44 บาทต่อลิตร โดยการปรับลดครั้งนี้เกิดจากฐานะกองทุนน้ำมันที่ดีขึ้นตามราคาน้ำมันโลกที่ลดลงและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยกองทุน ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2025 ยังติดลบ 8,455 ล้านบาท มองเป็นลบเล็กน้อยกับ OR PTG จาก marketing margin ที่ปรับตัวลดลง
- CRC ประกาศขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท NKT ให้แก่ PICO Holding JSC ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนาม โดยมีมูลค่ากิจการที่ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,137 ล้านบาท โดย CRC จะรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าครั้งเดียวประมาณ 5.9 พันล้านบาท ใน 4Q25 เมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชีสุทธิของ NKT ที่ 6.0 พันล้านบาท โดยคาดว่าการทำรายการจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และไม่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น เนื่องจากขนาดของรายการไม่เข้าเกณฑ์ มองว่ารายการดังกล่าวเป็นบวกเล็กน้อยเนื่องจากการดำเนินงานของ CRC ในเวียดนามมีแนวโน้มดีขึ้นจากการมุ่งเน้นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีกว่า เช่น ธุรกิจอาหารและอสังหาริมทรัพย์
- นายกสมาคมภัตตาคารไทยระบุว่า บรรยากาศการใช้จ่ายในร้านอาหารขณะนี้ซบเซา โดยช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ 2569 คาดว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 10–20% ต่ำกว่าปกติที่มักขยายตัว 40–50% นื่องจากผู้บริโภคกังวลความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ส่งผลให้จำนวนลูกค้าและค่าใช้จ่ายต่อหัวลดลง สะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ระมัดระวังมากขึ้นของประชาชน มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อยกับกลุ่มร้านอาหารอย่าง ZEN OKJ MAGURO M AU
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–21 ธ.ค. 2025 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 31.76 ล้านคน ลดลง 7.25% YoY ในสัปดาห์วันที่ 15–21 ธ.ค. 2025 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 10.44% WoW แตะ 778,341 คน หรือเฉลี่ยวันละกว่า 1.1 แสนคน แรงหนุนหลักมาจากตลาดระยะไกลที่ฟื้นตัวชัดเจนในเดือนธันวาคม และตลาดระยะใกล้โดยเฉพาะมาเลเซีย ขณะที่ 5 ตลาดหลัก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าสัปดาห์ถัดไปจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากช่วงวันหยุดฤดูหนาว เทศกาลคริสต์มาส มาตรการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง และการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบิน
Daily pick
KKP: ราคาพื้นฐาน 74.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KKP จากแนวโน้มของคุณภาพสินเชื่อที่มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากการทยอยหมดไปของสินเชื่อที่มีปัญหาในช่วงปี 2021-22 ที่ผ่านมาและผลการขาดทุนรถยึดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากทั้งราคารถมือสองที่ค่อนข้าง stable รวมไปถึงการที่ยอดรถยึดคงค้างปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2000 คัน ต่ำสุดในรอบ 3 ปี และการปรับตัวดีขึ้นของสินเชื่อทั้ง stage 2-3 ขณะที่สินเชื่อในมาตรการคุณสู้เราช่วยมีอยู่ที่ระดับ 3-4% ของสินเชื่อทั้งหมดยังมีคุณภาพที่ดี และ KKP ยังได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นกัน เนื่องจากมีสัดส่วนของสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อที่มีลักษณะ fixed rate เราเชื่อว่า KKP ยังมีโอกาสและความสามารถในการทำ capital management อย่างต่อเนื่องในปี 2026
ADVANC: ราคาพื้นฐาน 331.32 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ ADVANC จากแนวโน้มกำไรจากผลประกอบการหลักใน 4Q25 คาดที่ 1.26 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 36.3% YoY และ 6.2% QoQ หนุนจากรายได้ปกติที่เติบโตขึ้นแข็งแกร่ง การประหยัดต้นทุนคลื่นความถี่ (ผ่านค่าใช้จ่าย D&A) และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง โดยพรีวิวกำไรปกติช่วง 12 เดือนของปี 2025 คิดเป็น 107.5% ของประมาณการกำไรปกติปี ทั้งนี้คาดว่า ADVANC จะประกาศเงินปันผล 2H25 ที่ 7.89 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 95% และอัตราตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่ 4.72%
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตามบันทึกการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ Monetary Policy Meeting Minutes) และการรายงานตัวเลขส่งออก (TH Exports) จากกระทรวงพาณิชย์ เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.7% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH Imports) ตลาดคาดการณ์ที่ 14.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 16.3% YoY
วันพฤหัสบดี ติดตาม สุนทรพจน์ของนายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นในการประชุมสมาชิกสภาเคดันเรน ณ กรุงโตเกียว
วันศุกร์ ติดตามการรายงานเงินเฟ้อของกรุงโตเกียว (Tokyo CPI) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.7% YoY และเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า









