พลังไตรภาคี! ETC จับมือ BWG และ กนอ. แก่งคอย ขับเคลื่อนโมเดล “ขยะแลกกล้า“ ปั้นสระบุรีสู่เมืองสีเขียวสุดยั่งยืน
เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนภาคอุตสาหกรรมจึงไม่ใช่เพียงผู้ผลิตแต่ต้องเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศล่าสุดบริษัทเอิร์ธเท็คเอนไวรอนเมนท์จำกัด (มหาชน) หรือ ETC ผู้นำด้านโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดจับมือพันธมิตรแกร่งกลุ่มบริษัทเบตเตอร์เวิลด์กรีนจำกัด (มหาชน) หรือ BWG และการนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอยประกาศความสำเร็จแคมเปญสุดสร้างสรรค์ “ขยะแลกกล้า” มุ่งเป้าลดขยะจากต้นทางควบคู่การเติมพื้นที่สีเขียวให้ปอดชาวสระบุรีอย่างเป็นรูปธรรม
คุณศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์เบื้องหลังโครงการนี้ว่า “โครงการ ‘ขยะแลกกล้า‘ ถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะของชุมชนให้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและจับต้องได้ โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การเปิดโอกาสให้ประชาชนนำขยะที่คัดแยกแล้วมาแลกรับกล้าไม้พันธุ์ดี ซึ่งนับเป็นการส่งเสริมวินัยในการคัดแยกวัสดุเหลือใช้อย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นทาง“
“เราตั้งเป้าหมายที่จะปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน โครงการนี้ไม่ใช่เพียงการเพิ่มจำนวนต้นไม้เท่านั้น แต่คือการสร้าง ‘แรงจูงใจ‘ ให้คนมองเห็นคุณค่าของวัสดุเหลือใช้ ซึ่งขยะเหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดสู่กระบวนการรีไซเคิล หรือแปรรูปเป็นพลังงานสะอาด (Waste-to-Energy) ได้ในอนาคต โครงการนี้จึงถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ ETC และ BWG ในการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, and Governance) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่และยั่งยืนสืบไป“ คุณศุภวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
บรรยากาศภายในงานณการนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย (ตำบลบ้านธาตุ) เต็มไปด้วยความร่วมมือร่วมใจโดยคณะผู้บริหารและพนักงานจาก ETC และ BWG ได้ผนึกกำลังกับผู้แทนการนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอยหน่วยงานภาครัฐผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ร่วมกันลงมือปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นทันที 140 ต้นและแจกจ่ายกล้าไม้แข็งแรงสู่มือประชาชนรวมกว่า 1,500 ต้น
ความพิเศษของโครงการนี้คือการได้รับความร่วมมือจากสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสระบุรีกรมป่าไม้ในการคัดเลือกพันธุ์ไม้ยืนต้น 10 ชนิดที่เหมาะสมกับสภาพดินและภูมิอากาศมากที่สุดอาทิแคนา, เหลืองปรีดี, หางนกยูง, ยางนาและตะแบกเพื่อให้มั่นใจในอัตรารอดและการเติบโตในระยะยาวซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของการบูรณาการระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน (Industrial-Urban Symbiosis) โดยมีกนอ. แก่งคอยเป็นตัวกลางสำคัญในการเปลี่ยนภาพลักษณ์นิคมอุตสาหกรรมให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นและเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน









