ยังคงคาดหวังการฟื้นตัวจาก Domestic Play

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones และสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมไปถึงฝั่งยุโรปก็ปิดทำการเช่นกัน แต่คืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะกลับมาเปิดทำการ แต่ถึงอย่างนั้นก็จะไม่ได้มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ประกาศ โดยสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวตามเทศกาลปีใหม่ (ไทยเปิดทำการถึงวันที่ 30 ธ.ค.และกลับมาเปิดทำการอีกทีในวันที่ 5 ม.ค. ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเพียงวันที่ 1 ม.ค.

ส่วนประเทศไทยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ประกาศภาวะการค้าระหว่างประเทศพบว่า มูลค่าส่งออกขยายตัวที่ 7%YoY การส่งออกยังคงได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตาม Cycle ขาขึ้นของคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการเติบโตของ Technology AI สำหรับข้อมูลในช่วง YTD พบว่าส่งออกไทยขยายตัวได้ดีในระดับ 12.6%YoY สินค้าที่ส่งออกที่ขยายตัวเด่น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ +60%YoY แผงวงจรไฟฟ้า (+17%YoY) โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+68%YoY) แต่เชื่อว่าเป็นบริษัทอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ตลาดหุ้นไทยมิได้รับผลดีมากนักจากปัจจัยส่งออกที่เติบโตได้ดี ในขณะเดียวกันพบว่าด้วยเงินบาทที่แข็งค่ากลับเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม ทั้งจากการท่องเที่ยว รวมไปถึงส่งออกในอนาคต ถือเป็นความเสี่ยงกับการเติบโตหลังจากนี้  ซึ่งสอดคล้องกับวานนี้ที่เริ่มเห็นแรงขายในหุ้นกลุ่มส่งออก (KCE, DELTA) ประกอบกับราคาทองแดงที่ปรับขึ้น เร่งการสูงขึ้นของต้นทุน แต่ราคาขายอาจถูกกดดันจากเงินบาทกระทบกับอัตรากำไรขั้นต้น

วันนี้ประเมิน SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1260 – 1275 แม้วานนี้ตลาดหุ้นไทยจะปรับลงแต่แรงกดดันหลักๆ มาจากหุ้นกลุ่ม Electronics แต่ Domestic Play ยังดูน่าสนใจและคาดหวังแรงซื้อจะกลับมาตามความคาดหวังเลือกตั้งในช่วงต้นเดือน ก.พ. เชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะปรับลงของ Domestic Play วานนี้มองเป็นโอกาส อาทิ กลุ่มค้าปลีก (CPALL) โรงแรม (CENTEL MINT) การเงิน (MTC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท)

ปัจจัยบวกจากการที่ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเริ่มเห็นการฟื้นตัวได้ หลังจากปรับตัวลดลงแรงในช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ต้นทุนยังคงทรงตัวในระดับต่ำ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 4Q25 ยังคงดูดีได้อยู่ สำหรับปี 26 CPF มองว่าในแง่กำไรขั้นต้นรวมอาจจะชะลอตัวจากปี 25 ได้ เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์เฉลี่ยมีแนวโน้มต่ำกว่า อย่างไรก็ตามในแง่กำไรรวมยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบทับอดีต

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 68.00 บาท)

แม้ว่าการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิมจะลดลง 0.5%YoY พร้อมกันค่าใช้จ่ายที่ปรับขึ้น แต่มองไปข้างหน้าแล้วมีทิศทางที่ดีขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของ Ready to eat ประกอบกับภาพรวมที่ดีขึ้นของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

- Advertisement -