เริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ทำให้ตลาดอาจเคลื่อนไหวจำกัด

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 20 จุด (-0.04%) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางหลังผ่านพ้นเทศกาลคริสต์มาส ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.8% นักลงทุนกังวลกับภาวะอุปทานจะล้นตลาด รวมไปถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน

Market Outlook

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ทำให้หลายๆ สินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว (ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร) ยกเว้นทองคำปรับขึ้นต่อเนื่อง หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วไม่ได้มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจนสำหรับทองคำ เพราะ US Dollar ก็กลับมาแข็งค่าระยะสั้น Dollar Index YTD อ่อนค่ามาเพียง -9.6% แต่ราคาทองคำ YTD +72% บ่งชี้ว่าในปีนี้ราคาทองคำไม่ได้สัมพันธ์กับ Dollar Index เท่าใดนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นแรงเก็งกำไรผสานกับธนาคารกลางทั่วโลกทยอยเข้าซื้อ ในขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาตลาดหุ้นสหรัฐฯ พบว่าปีนี้ Sector ที่ยังคง Outperform ได้แก่ Technology นำมาโดย Alphabet +64% Avgo +49% NVIDIA +40% MSFT +14.6% META +12.5% รวมไปถึง Heath Care จำพวก Technology (Eli Lilly +38%) บ่งชี้ว่านักลงทุนยังเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม AI, Technology

ในส่วนของหุ้นไทยพบว่า SET INDEX YTD ติดลบราว 9% กลุ่มที่ผลตอบแทนเป็นบวกมีเพียงธนาคารพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสาร ส่วนที่เหลือค่อนข้างจะให้ผลตอบแทนเป็นลบ มองว่าเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจไทยและการท่องเที่ยวที่เผชิญกับความผิดหวัง ประกอบกับนักลงทุนลดความคาดหวังน้อยลง สะท้อนผ่านระดับ PE ที่ถูกกดลงการลงทุนหุ้นไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน Growth มาเป็น Value จึงควรเน้นที่หุ้นปันผลดีและ PE ไม่สูง เช่นธนาคารพาณิชย์ แม้จะปรับขึ้นมาพอสมควรแต่หากย่อตัวยังมองเป็นโอกาส ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล หากลดลงมากกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมัน

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1250 – 1270 ปัจจัยหนุนด้าน Santa Rally คล้ายกับว่าจะไม่เกิดกับหุ้นไทย อาจเป็นเพราะปัจจัยพื้นฐานไม่โดดเด่น และแรงซื่อสถาบันก็ไม่มาตามที่คาดหวังไว้ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน แม้ระยะสั้นไม่มีปัจจัยหนุนแต่เดือนม.ค. ยังมีปัจจัยหนุนอย่างการเลือกตั้ง จังหวะพักตัวในช่วงนี้ยังมองเป็นโอกาสเก็งกำไรกลุ่มได้ประโยชน์จากเลือกตั้ง อาทิ ค้าปลีก (CPALL HMPRO DOHOME) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANKKTB SCB) จังหวะย่อตัวมองเป็นโอกาสเพราะปันผลที่สูง

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท)

ปัจจัยบวกจากการที่ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเริ่มเห็นการพื้นตัวได้ หลังจากปรับตัวลดลงแรงในช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ต้นทุนยังคงทรงตัวในระดับต่ำ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 4Q25 ยังคงดีได้อยู่ สำหรับปี 26 CPF มองว่าในแง่กำไรขั้นต้นรวมอาจจะชะลอตัวจากปี 25 ได้เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์เฉลี่ยมีแนวโน้มต่ำกว่า อย่างไรก็ตามในแง่กำไรรวมยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอดีต

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)

การนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดี ส่งผลให้ Cost to income ratio ทรงตัวระดับต่ำจะช่วยลดผลกระทบจากรายได้ดอกเบี้ยรับที่ลดลง โดยคาดกำไรสุทธิปี 2025 เติบโต 10% แต่จะปรับลดลง 2% ในปี 2026 จุดเด่นของ SCB อยู่ที่คุณภาพสินเชื่อแข็งแกร่ง และการจ่ายเงินปันผลสูงในกลุ่มธนาคาร โดยคาดจะให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ 8.3% ในปี 2026

- Advertisement -