บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

AAPICO HITECH กําไร 4Q64 สะดุด…แต่กลับมาดีต่อในปี 65

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +32%

Close Feb 01, 2022 Price (THB) 26.00

12M Target (THB) 34.40

Previous Target (THB) 34.40

What’s new?

  • แนวโน้ม 4Q64 คาดกำไรปกติไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยน +QoQ แต่ชะลอตัว YoY บ.ลูก โปรตุเกสยังเป็นตัวฉุด
  • ภาพรวมกําไรปี 2564 คาดกําไรเติบโต 521% YoY ตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ และธุรกิจตัวเเทนจําหน่ายรถยนต์ที่ฟื้นตัว
  • ปี 2565 คาดเติบโตต่อเนื่อง คาดสถานการณ์ขาดแคลนชิปคลี่คลาย และเข้าช่วงเปลี่ยนโมเดลใหม่ และได้ออเดอร์ใหม่จากยุโรป กว่า 1 พันล้านบาท

Our View

  • เรามองว่าหุ้น AH น่าสนใจ เนื่องจากผลประกอบการผ่านช่วงที่แย่สุดไปแล้ว กําไรจะเร่ิมกลับมาเติบโตดีอีกคร้ังในปี 2565
  • เราคงคําแนะนํา “ซื้อ” เราคงมูลค่าพื้นฐาน ปี 2565 ที่ 34.40 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 ปี ที่ 10x ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 7.3x ซึ่งเรามองว่าไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน

คาดกำไร 4Q64 แผ่ว บริษัทลูกที่โปรตุเกสยังเป็นตัวฉุด

เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q64 ที่ 104 ล้านบาท -56%QoQ และ -34%YoY อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 40 ล้านบาท บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 144 ล้านบาท +14%QoQ แต่ -49%YoY กำไรฟื้นตัวดี QoQ เนื่องจากธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ในมาเลเซียกลับมาปกติ หลังจากไตรมาสก่อนที่โดนกระทบจาก lockdown และยอดผลิตรถยนต์ของประเทศไทยใน 4Q64 ที่ฟื้นตัว 29%QoQ อย่างไรก็ตาม เทียบกับปีก่อนกำไรปรับลดลง เนื่องจากฐานรายได้ที่สูง และธุรกิจของบริษัทลูกที่โปรตุเกสยังเป็นตัวฉุดจากสถานการณ์ขาดแคลนชิป ที่ยุโรปยังคงรุนแรงอยู่ ซึ่งทำให้บริษัทลูกยังมีผลขาดทุน

ภาพรวมปี 2564 เราคาดกำไรสุทธิที่ 999 ล้านบาท +501% YoY ดีกว่าประมาณการเดิมของเราที่ 986 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกบริษัททำผลงานได้ดี พบว่าบริษัทมีผลประกอบการที่ฟื้นเด่นกว่าอุตสาหกรรม และบริษัทยังรับผลบวกจากการที่บริษัทชิ้นส่วนคู่แข่งปิดตัวไปในช่วง COVID-19 ส่งผลให้บริษัทได้ออเดอร์ใหม่เข้ามาราว 300 ล้านบาท เป็นออเดอร์ในประเทศ 200 ล้านบาท และออเดอร์ต่างประเทศ 100 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ปี 2565 ฟื้นตัว 19%YoY

ปี 2565 ยังฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และได้ออเดอร์ใหญ่ยุโรป

ในปี 2565 เราคาดแนวโน้มสดใส โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) เราคาดเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ หลังจบวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 คาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนชิปจะเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ใน 2Q65 2) ในปี 2565 รถกระบะหลายรุ่นจะเข้าสู่รอบปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ (Model Change) (เฉลี่ยทุก 5 ปี) ดังนั้นกลุ่มลูกค้าหลายรายเริ่มทยอยนำโมเดลใหม่เข้ามาเจรจากับบริษัทอย่างต่อเนื่อง 3) บริษัทได้คำสั่งซื้อใหม่เป็น global market สำหรับชิ้นส่วนรถกระบะ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยได้ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้ายุโรป โดยในปี 2565 คาดรับรู้รายได้ราว 700 ล้านบาท 4) ผลบวกจากการที่รัฐบาลมาเลเซียมีการต่ออายุนโยบายลดภาษีรถยนต์ ทำให้ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัว เราคาดกำไรในปี 2565 ของ AH ที่ 1,110 ล้านบาท +11% YoY

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ AH แม้จะสะดุดในช่วง 3Q64 แต่ภาพรวมทั้งปี เติบโตดีกว่าอุตสาหกรรม และคาดเติบโตต่อเนื่องในปี 2565 เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 34.40 บาท อิง PE เฉลี่ยที่ 10x ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 7.6x ของ EPS ในปี 2565 และคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2564 – 2565 ที่ 3.9% และ 4.0% ตามลำดับ

ปัจจัยเสี่ยง 1) สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ OMICRON หากรุนแรง อาจ กลับมากระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตรถ 2) ระยะยาวการเข้ามาของ EV ถือเป็น Disruption ต่อ อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ

- Advertisement -