บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Major Cineplex Group (MAJOR.BK/MAJOR TB)* ประมาณการ 4Q64: คาดจะพลิกเป็นกำไรได้

Event

ประมาณการ 4Q64F

Impact

คาดผลการดำเนินงานหลักจะดีขึ้นใน 4Q64

เราคาดว่าผลประกอบการดำเนินงานของ MAJOR ใน 4Q64F จะพลิกเป็นกำไร 53 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนหลัก 450 ล้านบาท ใน 3Q64 แต่แย่ลงจากที่มีกำไรหลัก 328 ล้านบาทใน 4Q63 โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น QoQ ใน 4Q64F จะเป็นเพราะรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.56 พันล้านบาท (+855% QoQ) จากการกลับมาเปิดบริการโรงภาพยนตร์ทุกแห่งตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2564 และมีภาพยนตร์ดังจ่อคิวเข้าฉาย ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้รายได้จากโรงภาพยนตร์ (ยอดขายตั๋ว และเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว) เพิ่มขึ้นเป็น 897 ล้านบาท (+37% QoQ) และ 364 ล้านบาท (+30% QoQ) แต่เมื่อเทียบ YoY เราคาดว่ารายได้ที่จะเพิ่มขึ้น 17% YoY แต่จะถูกหักล้างโดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดเหลือ 29.1% จาก 30.7% ใน 4Q63 และไม่ได้รับรู้กำไรจาก บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF.BK/SF TB) อีกหลังจากขายหุ้นออกไปแล้วใน 3Q64

ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2564 และแนวโน้มสดใสขึ้นในปี 2565

เราเชื่อว่าผลประกอบการของ MAJOR ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q64 และจะทยอยปรับตัวดีขั้นตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป เนื่องจากการกลับมาเปิดบริการโรงภาพยนตร์ทุกแห่งใน 4Q64 สำหรับแนวโน้มในปี 2565 เราคาดว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรจากโปรแกรมหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด และภาพยนตร์ไทยที่มีกำหนดเข้าฉายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขาย เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งคาดรายได้จากค่าโฆษณาที่กลับมาตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา นอกจากนี้ MAJOR ยังมีแผนจะผลักดันรายได้ในปี 2555 โดยการ i) วางจำหน่ายป๊อบคอร์นแบบบรรจุถุงในร้าน 7-Eleven ตั้งแต่ปลาย 1Q65 เป็นต้นไป ii) ร่วมสร้างภาพยนตร์กับพันธมิตรจากประเทศจีนเพื่อเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ราว 5,000 โรงในประเทศจีนในปี 2565

ประมาณการกำไรปี 2564F-2565F ของเรายังมี upside

หากกำไรหลักใน 4Q64 เป็นไปตามประมาณการของเรา จะทำให้ผลขาดทุนหลักโดยรวมในปี 2564F จะอยู่ที่ 707 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าประมาณการผลขาดทุนหลักในปีนี้ของเราที่ 777 ล้านบาท ยังมี upside อีก 8%-9% ในขณะเดียวกัน ประมาณการกำไรหลักปี 2565F ของเราที่ 588 ล้านบาทน่าจะมี upside อีกจากโครงการใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2565 (ป๊อปคอร์นในร้าน 7-Eleven และการร่วมผลิตภาพยนตร์กับพันธมิตรเพื่อฉายในประเทศจีน) ซึ่งเรายังไม่ได้รวมเข้าไว้ในประมาณการของเรา

คงประมาณการปี 2564-65 เอาไว้ตามเดิม

เรายังคงประมาณการผลขาดทุนหลักปี 2564F เอาไว้ตามเดิมที่ 777 ล้านบาท และยังคงประมาณการกำไรหลักสำหรับปี 2565F ที่ 588 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้น และมีโปรแกรมหนังเด็ดต่อคิวรอเข้าฉาย โดยมี upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการจากโครงการใหม่ๆ เช่น การขายป๊อบคอร์นใน 7-Eleven และการสร้างภาพยนตร์เพื่อไปฉายในจีน

Valuation and action

เรายังคงคําแนะนําซื้อ MAJOR และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 26.75 บาท (DCF, WACC 8.0%)

Risks

รายได้จากโรงภาพยนตร์ต่ำกว่าที่คาดไว้

- Advertisement -