สรุปภาวะตลาด
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มไอซีที และค้าปลีก ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีปรับตัวทดสอบบริเวณ 1,700 จุด ก่อนจะย่อตัวลงมา ติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนในรอบถัดไป ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,694.28 จุด +9.10 จุด +0.54% มูลค่าการซื้อขาย 91,815 ลบ. ต่างชาติ +4,022.22 ลบ. TFEX +11,548 สัญญา ตราสารหนี้ -5,425.25 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งข้ึน 7.69 ดอลลาร์ +8% ปิดท่ี 103.41 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าการท่ีรัสเซียใช้ ปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครนจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน และการที่ IEA มีมติระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองจำนวน 60 ล้านบาร์เรลเป็นการตอกย้ำว่าอุปทานน้ำมันโลกมีไม่เพียงพอท่ีจะรับมือกับภาวะชะงักงันในขณะน้ี
+ สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งข้ึน 1.3%MoM ในเดือนม.ค. สูงกว่าท่ีนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนธ.ค.
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ 55.5 ในเดือนม.ค.
+ จีนรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.อยู่ท่ีระดับ 50.2 เพิ่มข้ึนจากระดับ 50.1 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.9
+ ยอดส่งออกของเกาหลีใต้พุ่งข้ึน 20.6%YoY ในเดือน ก.พ. เนื่องจากการส่งออกชิป ยานยนต์ และสินค้าสำคัญ อื่นๆ เพิ่มสูงข้ึนท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
+ ปธน.อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโกแห่งเบลารุส เปิดเผยว่ากองกำลังของเบลารุสจะไม่ร่วมมือกับกองทัพรัสเซีย เพื่อเข้าบุกยูเครน
+ ครม. มีมติเห็นชอบการจัดทำความตกลง Air Travel Bubble ระหว่างไทย-อินเดียตามท่ีกระทรวงคมนาคม เสนอ ซึ่งท้ัง 2 ฝ่ายได้มีการประสานงานจนได้ข้อสรุปของการจัดทาความตกลง Air Travel Bubble ระหว่างไทย-อินเดีย
ปัจจัยลบ
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 597.65 จุด หรือ -1.76% กังวลสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากชาติมหาอานาจพร้อมใจคว่ำบาตรรัสเซีย
– นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซียกล่าวว่ารัสเซียจะยังคงใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนจนกว่าจะ บรรลุเป้าหมายหลักในการปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของชาติตะวันตก แต่จะไม่ยึดครองยูเครนและจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตของพลเรือน
– EU ตัดสินใจคว่ำบาตรกลุ่มบุคคลสำคัญของรัสเซียท้ังหมด 26 ราย โทษฐานท่ีรัสเซียยกพลรุกรานยูเครน โดยหน่ึงในนั้นคือนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย
– มาสเตอร์การ์ด อิงค์ ระงับการให้บริการเครือข่ายชำระเงินกับสถาบันการเงินของรัสเซียหลายแห่ง ตามมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่มุ่งลงดาบรัสเซียฐานรุกรานยูเครน
– ธปท.รายงานผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) พบว่าภาคเอกชนมองว่า เศรษฐกิจไทยยังคงเปราะบาง ขณะที่กำลังซื้อที่อ่อนแอจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 22,197 ราย มีผู้เสียชีวิต 45 ราย รักษาหาย 19,093ราย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังคงกังวลเก่ียวกับสถานการณ์ตึง เครียดในยูเครน รวมท้ังผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากชาติมหาอำนาจพร้อมใจกันคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะท่ีราคาน้ำมันดิบ WTI ท่ีปรับตัวข้ึนแรงช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันน้ีท่ี 1,685-1,700 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
- มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
- กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองข้ึน เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
หุ้นรายงานพิเศษ
IMH (Bloomberg consensus 28.02 บาท)
- 4Q64 มีกำไร 139 ลบ. +1,841%YoY -32%QoQ ปี 64 พลิกมีกำไร 423 ลบ.จากขาดทุน 17 ลบ.ในปี 63 เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลประชาพัฒน์ (ถือหุ้น 100%) ที่เร่ิมควบรวมงบการเงินต้ังแต่เดือน เม.ย. 64 ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ทำให้รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มข้ึน 44%YoY อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นสู่ 66.5% จาก 24.3% ในปี 63 ขณะที่ อัตรากำไรสุทธิพลิกเป็นบวก 44% จาก -7% ในปี 63 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.90 บาท yield 4.7%
- โครงการในอนาคต 1. สร้างโรงพยาบาล IMH แบริ่ง ขนาด 600 เตียง รองรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าประกันสังคม มูลค่ากว่า 5,000 ลบ.ทำเลติดสถานี BTS แบริ่ง พื้นท่ี 12 ไร่ สัญญาเช่า 30 ปี คาดจะเริ่มบริการราว 1Q68 2. นำรพ.ประชาพัฒน์ (ถือหุ้น 85%) เข้าจดทะเบียนในตลท.ฯ ราวปลายปี 65 เพื่อระดมทุนมาใช้สร้างรพ. IMH แบริ่ง โดยจะมีการให้สิทธิ Pre-emptive right กับผู้ถือหุ้นเดิมด้วย
• ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลในสถานการณ์ท่ีมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และในอนาคตแผนพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พ.ศ. 2560 – 2569 Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 446.50 ลบ. +6%YoY ราคาหุ้นท่ีปรับข้ึน 68% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซื้อขายที่ P/E 9.77 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นโรงพยาบาลที่เป็นคู่แข่งที่ระดับ 18.14 เท่า (CHG 9.37x, TNH 18.14x, SKR 20.8x, PRINC 219.75x ที่มา Setsmart 2 มี.ค. 65)
หุ้นมีข่าว
(+) SCB (Bloomberg Consensus 148.50 บาท) แบงก์ไทยพาณิชย์ (SCB) เริ่มสวอป SCBX เริ่มวันนี้ 2 มี.ค. ถึง 18 เม.ย.65 ในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้น บุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX พร้อมจับตาโครงสร้างใหม่ทั้ง “คาร์ด เอกซ์” ที่ทำบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และ “ออโต้ เอกซ์” ถูกแยกออกมาจากธนาคาร ส่วนเงินปันผลมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท และการยื่นซื้อ “บิทคับ” ได้ยื่นขอกับแบงก์ชาติแล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) ORI (Bloomberg Consensus 14.20 บาท) เดินกลยุทธ์สู้มาร์เก็ตแคป 1 แสนล้านบาท เตรียมส่งบริษัทย่อย “พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น และวัน ออริจิ้น” เข้าตลาด ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ารายได้รวม 1.75 หมื่นล้านบาท ทำนิวไฮต่อเนื่อง พร้อมเล็งเปิดโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท เดินเกม NFT ICO Utility Token พร้อม Metaverse (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ACE (Bloomberg Consensus 4.37 บาท) สบช่องประกาศรุกโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดทุกทางปีนี้ ทั้งการเจรจาดีลซื้อกิจการ เตรียมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมถึงขยะอุตสาหกรรม ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 18 โครงการเซ็นแล้ว รอ กฟผ. เซ็นกลับ ชูผลงานปี 2564 รายได้โต 14.8% จ่ายไฟ VSPP คลองขลุงเร็วกว่าแผน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BEM-CK (Bloomberg Consensus 10.10 , 25.20 บาท) BEM ผนึกกำลัง CK เตรียมเข้าประมูลสายสีส้มตะวันตก หากชนะมั่นใจสามารถเร่งงานวางระบบรถไฟฟ้าฝั่งตะวันออกได้ทันเปิดให้บริการปี 2568 ลุ้นกำไรทั้งปี 2565 ดีกว่าปี 2563 ท่ีมีกำไร 2 พันล้านบาท หนุนจากปริมาณผู้โดยสารที่ทยอยฟื้นตัว อานิสงส์จากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินถึงบางหว้า ย้ำความพร้อมทั้งฐานะการเงิน ประสบการณ์ดำเนินงาน และพันธมิตรงานโยธาที่แข็งแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 2 มี.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
- 4 มี.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
- สัปดาห์ที่ 2 ขอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยแถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุ นและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
- 30 มี.ค.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งท่ี 2/2565
- 31 มี.ค.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 18 พ.ค.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งท่ี 3/2565
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 2 มี.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 3 มี.ค.)
- 2-3 มี.ค. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา
- 3 มี.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.จากไฉซิน
อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต อัตราว่างงานเดือนม.ค.
- 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED