บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Italian-Thai Dev (ITD) 4Q64 ฟื้นตัวมีกำไรเด่น

Results Review

ผลประกอบการ 4Q64

ITD ประกาศผลประกอบการ 4Q64 มีกำไรที่เด่น 698 ล้านบาท เทียบกับที่ขาดทุนในไตรมาสก่อน -1,270 ล้านบาท และขาดทุนในปีก่อน -130 ล้านบาท ถ้าหากหักรายการสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆ จะมีกำไรปกติที่สูงถึง 990 ล้านบาท ผลประกอบการได้แรงหนุนจากยอดรับรู้รายได้งานก่อสร้างที่สูงถึง 16,711 ล้านบาท (+33%QoQ, +15%YoY) จากการเร่งงานก่อสร้างหลังสถานการณ์ Covid-19 ผ่อนคลายลง และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 13.9% เทียบกับ -1.7% ในไตรมาสก่อน และ 8.4% ในปีก่อน รวมปี 2564 มียอดรับรู้รายได้ 58,742 ล้านบาท เติบโต 9% และมีผลขาดทุนสุทธิ -156 ล้านบาท ขาดทุนน้อยลงจากปีก่อนที่ขาดทุน -1,104 ล้านบาท

แนวโน้มผลประกอบการ

ITD มี Backlog รวมประมาณ 2.5 แสนล้านบาท (รวมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน 92,512 ล้านบาท) ล่าสุดชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ จำนวน 3 สัญญา รวมมูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท จะช่วยหนุนยอดรับรู้รายได้ของ ITD ยังอยู่ในระดับสูง แต่โครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่ ITD ลงทุน คือ โครงการทวาย ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 7,844 ล้านบาท โครงการเหมืองแร่โปแตช 3,249 ล้านบาท และ โครงการในโมซัมบิก 2,422 ล้านบาท ยังสร้างภาระทั่งค่าใช้จ่าย และภาระดอกเบี้ยหนี้เงินกู้ จะกดดันผลประกอบการไม่เด่นมากนัก เราคาดยอดรับรู้รายได้ปี 2565 จะเพิ่มเป็น 67,554 ล้านบาท เติบโต 15% ต่ำกว่าประมาณการของ ผู้บริหารที่ประเมินจะมียอดรับรู้รายได้สูงถึง 80,000 – 100,000 ล้านบาท และคาดจะฟื้นตัวมีกำไร 370 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุน 156 ล้านบาท

คำแนะนำการลงทุน

ITD มีภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ณ สิ้นไตรมาส 4Q64 เท่ากับ 4.89 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่สูงเท่ากับ 2.72 เท่า เทียบกับ Debt Covenant ไม่เกิน 3 เท่า เราประเมินราคาเป้าหมายให้เท่ากับมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นได้เท่ากับ 2.6 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันแม้จะต่ำกว่าราคาเป้าหมาย เราคงแนะนํา ถือ เนื่องจากผลประกอบการยังผันผวนไม่แน่นอน

ความเสี่ยง

การแพร่ระบาดของ Covid-19/ อุบัติเหตุระหว่างก่อสร้าง / ปัญหาระหว่างก่อสร้างทำให้ต้นทุนเพิ่ม / ความล่าช้าของโครงการภาระหนี้สูง โครงการลงทุนขึ้นกับพันธมิตร ปัญหาแรงงานขาดแคลน

- Advertisement -