ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียน : 19838)
บวกต่อ ฟันด์โฟลว์เข้าหุ้นไทยยังเด่นอยู่ ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์แกว่งตัวขึ้นต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้ (ตามคาด) หนุนโดยฟันด์โฟลว์จากต่างชาติที่ต่อเนื่อง และนักลงทุนคลายกังวลต่อแนวนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในระยะถัดไป… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมของตลาดหุ้นมีน้ำหนักเป็นกลาง แต่เราเชื่อว่าต่างชาติจะยังซื้อสุทธิต่อเนื่องและหนุนตลาดต่อได้ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาปนๆ กัน แข็งแกร่งบ้างอ่อนแอบ้าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 2.15 แสนคน เป็นระดับต่ำสุดรอบ 1 ปี แต่ขณะเดียวกันตัวเลข ISM ภาคบริการเดือน ก.พ. ออกมาที่เพียง 56.5 ต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์ที่ 61.0 อย่างมากเช่นกัน (1) ความตึงเครียดในยูเครนยังอยู่ในระดับสูง หลังรัสเซียตรึงกำลังทหารใกล้กรุงเคียฟและมีการสู้รบต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรนักการเมืองและนักธุรกิจรัสเซียเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ดี มีประเด็นบวกเข้ามาช่วงเช้ามืดวันนี้ หลังจากการเจรจารอบที่ 2 จบลง ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงเขตหลบภัยเพื่อมนุษยธรรม (humanitarian Corridor) และอาจมีการหยุดยิงชั่วคราวเป็นเฉพาะจุด และนัดเจรจารอบที่ 3 ในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. ซึ่ง consensus คาดจะเพิ่มขึ้น 4 แสนคน (เพิ่ม 4.67 แสนคนในเดือน ม.ค.) ด้านปัจจัยภายในประเทศยังมีผลค่อนข้างน้อยต่อ SET Index ดังที่เห็นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 23,834 ราย เสียชีวิต 54 ราย และหายป่วยกลับ บ้าน 19,351 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน : 28668)
เก็งกำไร COM7*, SHR, PLANB*
- COM7* (เป้าพื้นฐาน 104 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 81 บาท / แนวต้าน 84-86 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 90 บาท (Stop loss 78 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก Apple เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่วันที่ 8 มี.ค.นี้ 3) ประเมินแนวโน้มกำไรปี 2565 โตต่ออีก +31% YoY ทั้งจาก Organic growth และการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ อาทิ BIGC TRUE ILM เป็นต้น 4) Forward PE 28.5 เท่า ยังไม่แพง (+1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ย เท่ากับ +/- 33 เท่า) และคาดประมาณการฯมี Upside ให้ปรับขึ้นอีก จากการเตรียมเปลี่ยน Notebook / Smartphone ใน 1 – 2 ปีนี้ จากการขยายเวลา Work from Home และรองรับการใช้งาน 5G
- SHR (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.44 บาท / แนวต้าน 3.54 – 3.6 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 3.8 บาท (Stop loss 3.28 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากการที่ประเทศจีนเตรียมผ่อนคลายมาตรการการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยและทั่วโลก 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงานปีนี้ เริ่ม Turnaround หลังสถานการณ์โควิด 19 เริ่มผ่อนคลาย (คาดไม่มีการล็อคดาวน์) ขณะที่ PBV ยังต่ำ 0.79 เท่า (หุ้นกลุ่มโรงแรม PBV เฉลี่ย > 2 เท่า)
- PLANB (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.0 บาท / แนวต้าน 8.4 – 8.6 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 9.0 บาท (Stop loss 7.65 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้ว คาดกำไรปีนี้โต +1,333% YoY เป็น 943 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของสื่อโฆษณานอกบ้าน (การบริโภคฟื้นตัว / ไม่มีสถานการณ์ล็อคดาวน์) และการขยายพื้นที่โฆษณาจากการเข้าซื้อธุรกิจสื่อนอกบ้านจาก AQUA
หุ้นมีข่าว
(+) CPALL* เงินเข้าเซเว่นฟื้น O2O ดัน-เปิดสาขาเพิ่ม (ทันหุ้น) CPALL* ส่งซิก Q1/2565 ยอดขายฟื้น รับมาตรการรัฐคลายล็อกเมืองกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และกำลังซื้อผ่านโครงการช้อปดีมีคืน ชูกลยุทธ์ O2O ลูกค้าตอบรับเพียบ หวังธุรกิจโตทุกไตรมาสหนุนผลงานทั้งปี 2565 เหนือกว่าปี 2564 ลุยสาขาใหม่ 700 สาขาปีนี้ จัดงบลงทุน 11,000-12,000 ล้านบาท
(+) TU* จ่อยื่นไฟลิ่งบ.ลูก i-Tail อัดงบเสริมแกร่ง-ปีนี้โต 5% (ทันหุ้น) TU* จ่อยื่นไฟลิ่งบ.ลูก i-Tail เข้า ตลาดหุ้นไทย ระดมทุนเสริมแกร่งระยะยาว คาดชัดเจน Q2 นี้ แถมเล็งทุ่มงบ 5 พันล้านบาท รีโนเวตเครื่องจักรอัพฐานเพิ่ม ส่วนปี 2565 วางเป้ารายได้โต 5% จากปีก่อน รับดีมานด์ทะลัก-โปรดักต์ใหม่หนุน แถมส้มหล่นบาทอ่อนค่า ดันยอดส่งออกกระฉูด
(+) EGCO* ลุยลงทุนปีนี้ 3 หมื่นล้าน เร่งแผนเอ็มแอนด์เอ-ไฮโดรเจน (กรุงเทพธุรกิจ) “เอ็กโก กรุ๊ป” เดินหน้าแผนลงทุน 5 ปี 1.5 แสนล้าน อัดงบปีนี้ 3 หมื่นล้าน เร่งต่อยอดพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐ พร้อมลุยเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน ตอบโจทย์พลังงานสะอาด เผยแผนนำเข้าแอลเอ็นจีร่วมมือผู้นำรายอื่นหวังต่อรองราคาไม่ห่วงน้ำมันดิบ 120 ดอลลาร์ กดดันราคาก๊าซ
(+) BCPG* อัดงบ 5 ปีกว่า 9.5 หมื่นล้าน เป้าโต 2 เท่า แตะ 2,900 MW ปี 69 (ข่าวหุ้น) BCPG* ทุ่มงบ ลงทุน 5 ปี กว่า 9.5 หมื่นล้านบาท เร่งขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 2 เท่า แตะ 2,900 เมกะวัตต์ ภายในปี 69 ตั้งเป้าบิตด้าปีนี้โต 25-35% ล่าสุดบันทึกกำไรขายหุ้นโรงไฟฟ้า SEGHPL ในอินโดนีเซีย 33.33% กว่า 1.6 พันล้านบาท
(+) LEO โลจิสติกส์ 2 เดือนนิวไฮ จ่อบุ๊กรายได้บ.ย่อยเข้า Q2 (ทันหุ้น) LEO ส่งสัญญาณรายได้โลจิสติกส์ 2 เดือนแรกทำนิวไฮ ค่าระวางเรือยังอยู่ในระดับสูง ความต้องการเพียบ ฝากบอสใหญ่ “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” เร่งปันผลงานโตก้าวกระโดดตามแผน ปักธงรายได้ปี 2565 โต 30-35% เตรียมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์บริษัท เวิร์ลแอร์” เข้าในไตรมาส 2/2565 เร่งเครื่องปิดดีล M&A อินโดเวียดนาม
(+) SSP ปิดดีลซื้อวินด์ฟาร์ม 45 เมกฯ รับรู้รายได้ทันที 21 หนุนปีนี้นิวไฮโต 20% (ข่าวหุ้น) SSP ทุ่ม 752 ล้านบาท ปิดดีล M&A วินด์ฟาร์ม 45 เมกะวัตต์ ในจ.มุกดาหาร หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 241.5 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 1/65 พร้อมดันรายได้ปีนี้โตเกิน 20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BH* (เป้าพื้นฐาน 148 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 158 บาท)
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 15.8 บาท)
- BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 16.5 บาท)
- M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 53.75 บาท / แนวต้าน 56 57 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 53.5 บาท)
- MAKRO (เป้าพื้นฐาน 50 บาท) แนวรับ 42.5 บาท / แนวต้าน 44 – 46 บาท (Trailing stop 42 บาท)
- IP (เป้า Consensus 24.1 บาท) แนวรับ 19.8 บาท / แนวต้าน 20.5 – 20.8 บาท (Stop loss 19.4 บาท)
- PTT* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) แนวรับ 39.5 บาท / แนวต้าน 40.25 – 41 บาท (Stop loss 38.75 บาท)
- ORI* (เป้าพื้นฐาน 14.5 บาท) แนวรับ 11.9 บาท / แนวต้าน 12.5 – 12.8 บาท (Stop loss 11.5 บาท)
- LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 16.0 – 16.5 บาท (Stop loss 14.9 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- XO แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 21.2 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นลบ หลังผลกระทบจากการขนส่ง (ขาดตู้สินค้า) ทำให้คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q65 จะยังชะลอตัว แต่คาดจะเริ่มฟื้นตัวใน 2Q65 จากยอดออเดอร์ใหม่ ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯ ราคาเป้าหมายลงเป็น 21.2 บาท (เดิม 30 บาท) แต่ยังมี Upside จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
- TACC แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 10.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานยังเติบโตต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และรวมถึงการเติบโตไปพร้อมกับร้าน 7-Eleven SET แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการ ดำเนินงานในอุตสาหกรรม Packaging จะเริ่มฟื้นตัวหลังโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย โดยประเมินผลการดำเนินงานปี 2565 – 66 จะกลับมาโดเด่น
- SAWAD* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 81 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโตในปีนี้ จากการเติบโตของยอดสินเชื่อที่มี Yield สูง