บล.โกลเบล็ก:

คาดการณ์กำไรปี 65 เติบโต 10%YoY และยังมีอัพไซต์เพิ่มเติม

  • งวด 4Q64 บริษัทรายงานกำไร 53 ลบ. (สูงกว่าคาด 18%) +21%YoY +41%QoQ
  • ประมาณการกำไรปี 65 ราว 211 ลบ. เติบโต 10%YoY และยังมีอัพไซต์เพิ่มเติม
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสมที่ 7.20 บาท

ประเด็นสำคัญในการลงทุน

  • งวด 4Q64 บริษัทรายงานกำไร 53 ลบ. (สูงกว่าคาด 18%) +21%YoY +41%QoQ บริษัทรายงานรายได้งวด 4Q64 เท่ากับ 694 ลบ. สูงกว่าคาด 11% เติบโต 12%YoY 20%QoQ จากปัจจัยหลัก 2 ประการ 1) ขยายสาขาเป็น 38 สาขา (+6 สาขา YoY +2 สาขา QoQ) และ 2) มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐฯ (บัตรสวัสดิการวงเงิน 700-800 บาท/เดือน และคนละครึ่งวงเงิน 3,000 บาท) ขณะที่ %GPM เร่งดีขึ้นสู่ 17.4% (4Q63 = 16.6%, 3Q64 = 17.3%) เป็นผลจากการประหยัดจากขนาด และการปรับ Product Mix ขายสินค้าที่มาร์จิ้นสูงขึ้น ส่วน %SG&A เท่ากับ 8.3% (4Q63 = 8.4%, 3Q64 = 9.8%) ดีขึ้นจากการประหยัดจากขนาด ส่งผลให้กําไรงวด 4Q64 เท่ากับ 53 ลบ. (สูงกว่าคาด 18%) 2 +21% YoY +41%QoQ และกำไรทั้งปี 64 ราว 192 ลบ. (สูงกว่าคาด 4%) +44%YoY
  • ประมาณการกำไรปี 65 ราว 211 ลบ. เติบโต 10%YoY และยังมีอัพไซต์เพิ่มเติม เราประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 65 ราว 2,895 ลบ. +10%YoY และ 211 ลบ. +10%YoY ตามลำดับ โดยเราคาดว่าแนวโน้ม การเติบโตของรายได้จะเริ่มลดลงกลับมาใกล้เคียงกับระดับปกติที่ราว 10% ต่อปี โดยปี 65 บริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่ 6 สาขา แบ่งเป็นเปิดในช่วง 2-4Q65 ไตรมาสละ 2 สาขา ขณะที่วงเงินสำหรับมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจจากภาครัฐจะทยอยปรับลดลง ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งรอบล่าสุดภาครัฐให้วงเงินสำหรับมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่ 1,200 ลบ. และบัตรสวัสดิการฯ 400-500 บาท/เดือน (เริ่ม 1 ก.พ. – 30 เม.ย.65) ซึ่งเป็นวงเงินที่ถูกปรับลดลงจากช่วง 4Q64

อย่างไรก็ตาม บริษัทมี Potential Upside 2 ประการที่ยังไม่รวมในประมาณการปี 65 คือ 1) เมื่อต้นปีบริษัทจับมือกับ “แฟลช เอ็กซ์เพรส” เพื่อเปิดเป็นจุดส่งพัสดุทั้ง 38 สาขาทั่วภาคเหนือ แม้บริษัทจะมีรายได้จากการให้เป็นจุด Drop Off เพียงเล็กน้อย แต่คาดจะช่วยเพิ่มให้คนเข้าร้านมากขึ้น และ 2) จะเป็นผลสืบเนื่องให้บริษัทวางแผนขยายช่องทางขายแพลตฟอร์มออนไลน์กับ Lazada คาดจะเริ่มดำเนินการช่วงปลาย 2Q65

  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสมที่ 7.20 บาท เราคงประเมินราคาเหมาะสม TNP ที่ 7.20 บาท อิง Prospective PER ที่ระดับเดิม 27.5x (3Yr.Avg.+1.25SD) ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ระดับ 34x โดยคาดกำไรต่อหุ้นปี 65 ราว 0.26 บาท คํานวณเป็นราคาเหมาะสมปี 65 ราว 7.20 บาท ซึ่งมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบัน ส่งผลให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง

i) แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีก

ii) แผนการขยายสาขาไม่เป็นไปตามเป้า

iii) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเริ่มชะลอลง

iiii) ภาครัฐหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจ

- Advertisement -