บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

TPI Polene (TPIPL) กําไรปี 2565 จะยังเด่น แม้ว่าชะลอตัว

Company Update

ประเด็นการลงทุน

ผู้บริหารตั้งเป้าหมาย EBITDA ปี 2565 จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 พันล้านบาท หลังปี 2564 ทำสถิติสูงสุดใหม่ (1.22 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะมากกว่าเราคาดถึง 42% เช่นเดียวกับกำไรที่ปี 2524 ทำสถิติ แรงหนุนจากทั้งสามธุรกิจ คือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจโรงไฟฟ้า เราคาดกำไร 1Q65 และปี 2565 จะยังเด่น แม้ว่าชะลอตัว ราคาหุ้นมี Valuation ที่ถูกซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 2.50 บาท มีค่า P/E ปี 2565-66 ที่ 8.4-8.7 เท่า เราประเมินราคาเป้าหมาย 2.50 บาท บนฐานค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/E ของกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 14 เท่า แล้วหักด้วยคดีฟ้องร้อง คงแนะนำ ซื้อ

2565 ผู้บริหารตั้งเป้าหมาย EBITDA จะเพิ่มมากกว่า 2 พันล้านบาท

จากงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนเมื่อวันศุกร์ (25 มี.ค.) ผู้บริหารประเมิน EBITDA ปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มี EBITDA 1.2 หมื่นล้านบาท คือ 1.) ธุรกิจปูนซีเมนต์ คาดความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศจะเติบโต 5-10% จากการทยอยเปิดเมือง มีการก่อสร้างมากขึ้น ประเด็นต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้น ได้มีการปรับราคาปูนซีเมนต์ขึ้น 300 บาท/ตัน และคาดจะปรับขึ้นอีก 200 บาท/ตัน ในอนาคต ซึ่งจะช่วยชดเชยต้นทุนถ่านหินถ้าหากปรับขึ้นประมาณ 100 เหรียญ/ตัน โดยต้นทุนถ่านหินคิดเป็น 30% ของต้นทุน และจะมีการใช้เชื้อเพลิงขยะแทนถ่านหินเพิ่มเป็นประมาณ 30-40% จะช่วยประหยัดต้นทุน 700 ล้านบาทต่อปี

ธุรกิจปิโตรเคมียังเด่นต่อ ธุรกิจโรงไฟฟ้าเติบโตได้

2.) ธุรกิจ LDPE/EVA สเปรด EVA ยังสูง โดย EVA ซึ่งคิดเป็น 90% ของยอดขาย จากมีความต้องการต่อเนื่อง  นอกจากนี้มีการเพิ่มกำลังการผลิตช่วยเพิ่ม EBITDA 200-300 ล้านบาทต่อปี เพิ่มกำลังการผลิตกาวผง ช่วยเพิ่ม EBITDA 40-60 ล้านบาทต่อปี และ เพิ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มช่วยเพิ่ม EBITDA 15-25 ล้านบาทต่อปี 3.) ธุรกิจโรงไฟฟ้า แม้ว่าโรงไฟฟ้า TG3 (18MW) และ TG5 (55MW) adder จะหมดอายุในปีนี้ ซึ่งจะมีการขายไฟในราคาฐาน ทำให้ EBITDA ลดลง 1,144 ล้านบาท แต่จะได้แรงบวกจากค่า FT เพิ่ม ขาย RDF ให้ TPIPL และ ใช้ RDF ทดแทนถ่านหิน รวมแล้วจะทำให้ EBITDA เพิ่มขึ้น 1,534 ล้านบาท สุทธิแล้ว EBITDA ยังจะเพิ่มขึ้น 390 ล้านบาท

คาดกําไร 1Q65 จะยังเด่น รวมปี 2565 จะเด่นแม้ชะลอตัว

แนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 คาดกำไรจะยังเด่นเติบโตจากปีก่อนแม้ว่าจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน แรงหนุนธุรกิจปิโตรเคมี สเปรด EVA – Ethylene ที่เดือน ม.ค. มี.ค. แม้ว่าจะอ่อนตัวลง แต่ยังอยู่ในระดับสูง 1,400-1,800 เหรียญ/ตัน สำหรับแนวโน้มปี 2565 เราคงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม และต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหารประเมิน EBITDA ปีนี้ 10,291 ล้านบาท ลดลง 16% และคาดจะมีกำไรสุทธิ 3,743 ล้านบาท ลดลง 34% ราคาหุ้นซื้อขาย P/E ปี 2565 ต่ำ 8.4 เท่า เทียบกับกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 14 เท่า เป้าของผู้บริหารจะมีอัพไซด์จากประมาณการของเรา เราคงแนะนำซื้อ

- Advertisement -