Daily Focus: Selective Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways ตามคาด และขยับบวกขึ้นได้อีกเล็กน้อย 1.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายถือว่ายังไม่หนาแน่นนักที่ 6.6 หมื่นลบ. ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามาหนุน สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 490 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางลงเหลือ 730 ลบ. (สถานะใน SET50 Index Futures ยังคงไม่มีนัยยะนัก)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังคงแกว่ง Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,695-1,710 จุด จากเม็ดเงินที่ยังทยอยไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังคงมุมมองว่า Upside ระยะสั้นยังไม่กว้าง กลุ่มพลังงานคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นอีกครั้ง จากการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมของยุโรป ขณะที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจคาดจะชัดเจนมากขึ้นใน 2Q22 หากสถานการณ์สงครามยังลากยาว ซึ่งทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อยังคงเร่งตัว และส่งผลให้เกิด Inverted Yield Curve อย่างต่อเนื่อง แม้เราประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในช่วงเร่งตัวหลัง COVID-19 รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่จะฟื้นชัดขึ้นใน 2H22 แต่ในแง่ Valuation ปัจจุบันของ SET Index ที่เทรด PER ราว 18 เท่าถือว่าไม่ถูก กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เราแนะนำให้รอจังหวะพักตัวของดัชนีในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าลงหาระดับ 1,650+- จุดหรือต่ำกว่าในการเข้าสะสม ส่วนการซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเน้นลงทุนกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่มี PER/PBV ต่ำ ทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายการเงิน โดยเฉพาะ FED ที่จะดึงตัวเร็วได้ รวมถึงได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศที่เร่งตัว เรายังชอบกลุ่ม ธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนหุ้นที่ยังมี Valuation ต่ำ และยังเน้น Value และ Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BCP, ICHI, IVL, ORI, SHR
หุ้นเด่นวันนี้ : MEGA
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 63 บาท
- คาดกําไรปกติ 1Q22 -12% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่ยังโตแกร่ง +17% Y-Y และคิดเป็น 20% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่เราคาด แนวโน้มผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสถัดๆไป แม้ว่าโควิดจะคลี่คลายและกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่เทรนด์ใส่ใจสุขภาพเป็น New normal ที่อยู่ไปตลอด
- Research And Market คาดตลาดอาหารเสริมโลกปี 2021-2026 โตเฉลี่ย +8.7% CAGR สูงกว่า World GDP ที่โตเฉลี่ย 4% จุดแข็งของ MEGA คือแบรนด์และการมีโรงงาน 4 แห่งในไทย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย พร้อมส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วโลก เน้นตลาดกำลังพัฒนาเป็นหลัก
- แนวรับ 46//45-44.50 บาท แนวต้าน 47.50-48//50 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคตามคาด US$363 ล้าน โดยยังคงกระจุกตัวที่ไต้หวัน US$398 ล้าน แต่ยังคงไหลเข้าอาเซียน นำโดยอินโดนีเซียและไทย US$43 ล้าน และ US$22 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสาน ตลาดยังจับตาแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวจากผลกระทบของสงคราม ขณะที่เงินเฟ้อเร่งตัว สะท้อนไปยังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่เกิด Inverted Yield Curve อย่างไรก็ตาม คาดว่าอาเซียนกระแสเงินทุนยังค่อนไปในทางไหลเข้า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) TRUE-DTAC วานนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัทอนุมัติการควบรวมกิจการ ลำดับถัดไปเป็นขั้นตอนพิจารณาของกสทช. ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะเข้าบอร์ดได้ในเดือน พ.ค. 22 เราประเมินว่าหากสามารถควบรวมเป็น MergeCo ใหม่ได้สำเร็จจะเป็นบวกต่อ TRUE-DTAC ในแง่ต้นทุน โดยเฉพาะการลงทุนและค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน ซึ่งสามารถตัดออกได้ ขณะที่การแข่งขันในอุตสาหกรรมจะดุเดือดน้อยลง FSSIA ให้ราคาเป้าหมาย TRUE ที่ 4.20 บาท และ DTAC ที่ 42 บาท ส่วน Top Pick ยังคงเป็น ADVANC ราคาเป้าหมาย 260 บาท (ประธานกรรมการ/กรรมการ (มีอำนาจลงนาม) ของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการของ TRUE)
(0) CPF ระยะสั้น 1Q22 ยังไม่สดใสนัก จากทั้งราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ราคาหมูจีนลงต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง และค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าหนัก ซึ่งแม้ Demand ในหลายประเทศกลับมาฟื้นตัว และทำให้ปริมาณส่งออกไก่ของไทยเติบโต ราคาเนื้อสัตว์ในไทยและเวียดนามปรับขึ้นดี แต่ทั้งหมดชดเชยไม่ได้ เราคาดหวังกำไรจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นใน 2Q22-3Q22 เพราะเข้าสู่ High Season ของการส่งออก และคาดราคาวัตถุดิบน่าจะทรงตัวได้ และมีโอกาสที่ราคาจะเริ่มอ่อนลงในช่วง 2H22 ราคาเป้าหมายจาก FSSIA อยู่ที่ 28 บาท แนะนำ “ถือ” และชื่นชอบ GFPT ราคาเป้าหมาย 16 บาทมากกว่า
(+) BRI ประกาศ JV กับบริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ในสัดส่วน BRI 51% : Nomura 49% เพื่อพัฒนาโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 2.6 พันลบ. มีแผน เปิดตัว 3Q22 โดยโครงการ JV ใหม่ 2 แห่งมีการเซ็นสัญญาในวันที่ 25 มี.ค. 2022 หนุนให้ 1Q22 เติบโตก้าวกระโดด จากการบันทึกกําไรขายเงินลงทุน JV และรายได้ค่าบริหารโครงการราว 130 ลบ. เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-2023 เป็น +102% Y-Y และ +20% Y-Y ตามลำดับ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 14.20 บาท แนะน่า “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 103.61 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 34,921.88 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้น Twitter +27% หลังมีข้อมูล Elon Musk เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Twitter
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม ท่ามกลางติดตามชาติตะวันตกเตรียมคว่ำบาตรรัสเซียมากขึ้น หลังจากยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม รวมถึงธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเช้านี้ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (5 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.46 บาท/ดอลลาร์ สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 4.01 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 103.28 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลต่อภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมันจากสงครามยูเครน
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 1,934 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,089.98 / -1.74









