บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +10.0%

Close Apr 4, 2022 Price (THB) 145.50

12M Target (THB) 160.00

Previous Target (THB) 160.00

What’s new?

  • การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้คาดว่า 1Q65 จะขาดทุน Hedging 8.1 พันล้านบาท กดดันกำไรเหลือ 9.2 พันล้านบาท (-14% QoQ, -20% YoY)
  • อย่างไรก็ตาม ขาดทุน Hedging ส่วนใหญ่เกิดจาก Mark-to-market ราคาน้ำมันสิ้นงวด ซึ่งไม่ใช่เงินสด และมีโอกาสพลิกเป็นกำไรในอนาคต
  • หากนับเฉพาะกำไรปกติแข็งแกร่งที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ทรงตัวในระดับสูง QoQ เพราะ 4Q64 มีกลับรายการค่าใช้จ่ายรื้อถอน ขณะที่ +102% YoY จากราคาและยอดขายที่สูงขึ้นมาก

Our view

  • ระยะสั้นราคาน้ำมันอาจพักฐานหลังปรับขึ้นกว่า +30% YTD จากข่าวระบายสต็อกน้ำมัน SPR, การแพร่ระบาดของจีน, ความคืบหน้าส่งออกน้ำมันของอิหร่าน – เวเนซุเอลา ทั้งนี้ คาดอุปทาน 2Q65 ยังตึงตัวเพราะปริมาณน้ำมันจากรัสเซียหายไป
  • ขาดทุน Hedging จำนวนมากใน 1Q65 อยู่ในคาดการณ์ของเราแล้ว  และคาดขาดทุน Hedging 1Q65 จะแย่สุดช่วงที่เหลือของปี คาดกำไรแข็งแกร่งจากการปรับขึ้นราคาก๊าซ และยอดขายจากสัมปทานฉบับใหม่, การเพิ่มปริมาณผลิต และโครงการใหม่

PTT EXPLORATION & PRODUCTION น้ำมันแค่พักยังไม่ลง…ขาดทุน Hedging 1Q65 แย่สุด

คาด 1Q65 ขาดทุน Hedging สูง…แต่อยู่ในคาดการณ์ และกำไรปกติแข็งแกร่ง

สำหรับ 1Q65 คาดกำไรสุทธิ 9.2 พันล้านบาท ลดลง -14% QoQ และ -20% YoY เพราะ ณ ต้นปี 2565 บริษัทฯ มีอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน 15.4 ล้านบาร์เรล (Settlement 3.8 ล้านบาร์เรล/ไตรมาส) การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจึงทำให้คาดว่า 1Q65 จะขาดทุน Hedging 8.1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าส่วนใหญ่ (6.4 พันล้านบาท) จะเกิดจากการ Mark-to-market ราคาน้ำมันสิ้นงวด 1Q65 ซึ่งในกรณีราคาน้ำมันไตรมาสถัดไปอ่อนตัวลง PTTEP ก็สามารถบันทึกเป็นกำไร Hedging กลับมาได้ หากนับเฉพาะกำไรปกติ คาดทำได้ 1.7 หมื่นล้านบาท +1% QoQ จากฐานสูงในไตรมาสก่อนที่มีการกลับรายการค่าใช้จ่ายรื้อถอนโครงการบงกช 3-4 พันล้านบาท และปัญหาการผลิตของแหล่งบงกชหลังเกิดมรสุมช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับ 1Q64 จะขยายตัวเด่น +102% YoY จากอัตรากำไรที่สูงขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นเป็น US$51/bbl (+9% QoQ, +26% YoY) สอดคล้องราคาน้ำมันในตลาดโลก และปริมาณขายสูงขึ้นเป็น 427 kboed (+2% QoQ, +12% YoY)

ราคาน้ำมันแค่พักยังไม่เลิก…คาด 2Q65 ยังอยู่ระดับสูงจากการคว่ำบาตรรัสเซีย

แม้ราคาน้ำมันปัจจุบันเริ่มพักฐาน โดยสัปดาห์ล่าสุด -13% WoW หลังปรับขึ้นต่อเนื่อง +30% YTD กดดันจาก 1) ข่าวการระบายสต๊อกน้ำมัน SPR จำนวนมากของสหรัฐฯ 2) จำนวนผู้ติดเชื้อของจีนทำระดับสูงสุด 3) โอกาสการกลับมาส่งออกน้ำมันของอิหร่าน – เวเนซุเอลา อย่างไรก็ตาม เรามองว่าสถานการณ์สงครามยูเครน-รัสเซียยังตึงเครียดต่อไป และมาตรการกดดันรัสเซียจากชาติตะวันตก (คว่ำบาตรของสหรัฐฯ และ Self-sanction ของบริษัทพลังงานต่างชาติ) จะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่เดือนเม.ย. ทำให้ประเมินว่าราคาน้ำมันจะอยู่ระดับสูงจากภาวะอุปทานตึงตัว (คาดเฉลี่ย US$105/bbl เทียบกับ US$93/bbl ใน 1Q65)

ช่วงที่เหลือของปีแข็งแกร่ง ขาดทุน Hedging 1Q65 แย่สุด

หากกำไรสุทธิ 1Q65 เป็นไปตามคาด จะคิดเป็น 14% ของทั้งปี เพราะเป็นไตรมาสที่มีขาดทุน Hedging สูง อย่างไรก็ตาม ประมาณการทั้งปีของเรารวมรายการดังกล่าวไว้แล้ว หากนับเฉพาะกำไรปกติ 1Q65 จะคิดเป็น 24% ของทั้งปี มองข้ามไปช่วงที่เหลือของปี คาดทิศทางกำไรแข็งแกร่ง หนุนจาก 1) ราคาน้ำมันระดับสูงช่วง 2Q65 2) ยอดขายสูงขึ้นจากการเริ่มสัมปทาน PSC ฉบับใหม่ของเอราวัณ ตั้งแต่เดือนเม.ย. การปรับเพิ่มปริมาณส่งมอบของโครงการในโอมาน, การผลิตเพิ่มขึ้นของโครงการบงกช และการเริ่มผลิตของโครงการ Algeria HBR 3) การปรับขึ้นราคาก๊าซสะท้อนราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงต้นปี 4) ขาดทุน Hedging จะลดลง (มีโอกาสพลิกเป็นกำไร Hedging)

PTTEP ยังเป็นตัวเลือกหลักในระยะนี้

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท +69% YoY สู่ระดับสูงสุดใหม่ คงราคาเหมาะสม 160.00 บาท และคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่า 3 เดือนข้างหน้า PTTEP จะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะราคา พลังงานแพง นอกจากนี้ กรณีตลาดน้ำมันตึงตัวกว่าคาด (สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2565 เฉลี่ย US$90/bbl) ทุก US$1/bbl จะเป็น Upside ต่อกำไร 8 ร้อยล้านบาท และราคาเหมาะสม 2 บาท

- Advertisement -