KS Daily View 21.04.2022 >>> คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงประธาน Fed/ คาดตลาดหุ้นโลกแกว่งตัว ส่วนไทยติดตามงบกลุ่มธนาคาร/ SET คาด 1675-1690 หุ้นแนะนำ AMATA

ต่างประเทศ : KS คาดตลาดหุ้นเอเซียวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวลง (Sideway Down) หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนกลุ่ม Technology ปรับลง อิงดัชนี Nasdaq -1.22%DoD (หุ้น Netflix – 35.1% หลังบริษัทเผยจำนวนสมาชิกทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี, META Platforms -7.7%, Tesla -4.96% ฯลฯ), Dow Jones +0.71% (หนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท Procter & Gamble และบริษัทไอที IBM Corp) S&P500 -0.06% และประเมินตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงวันนี้อาจมีแรงกดดันเพิ่ม จากประเด็นเรื่อง Delist กลับมาอีกครั้ง (ล่าสุด หุ้น JD, ALIBABA มีความเสี่ยงโดนถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ) ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นคาดมีปัจจัยหนุนจาก ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นจากหลังจากอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า โดยล่าสุดธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีโดยไม่จำกัดจำนวนซึ่งมีอัตราผลตอบแทนคงที่ 0.25%

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ : ราคาน้ำมันดิบโลก อิง Brent Futures -0.4%อยู่ที่ $106.8/bbl ยังแกว่งตัวในทิศทางขาลง หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว 8 ล้านบาร์เรล สวนทาง Consensus คาด 2.47 ล้านบาร์เรล และความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลัง IMF ปรับลด World GDP และจีนยัง Lockdown ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน(น้ำมันที่ลง ถือเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่ม Anti Commodity อาทิ (EPG, SCGP, BGRIM, GULF, OR, AAV, BA) แต่ Sentiment ลบ PTT, PTTEP)

อัตราผลตอบแทน US อายุ 10 ปี : ปรับลงแรง -7.9 bps อยู่ที่ 2.834% หลังจากมีกระแสคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อกำลังใกล้จุดสูงสุด เป็น Sentiment ลบต่อหุ้นประกันชีวิต BLA

ในประเทศ : KS เชื่อว่าตลาดยังให้น้ำหนัก

1.) การประกาศงบงวด 1Q22 กลุ่มธนาคารพาณิชญ์ไทยวันนี้ KBANK, SCB และ BBL หลังจากก่อนหน้าธนาคารขนาดกลาง KKP ประกาศงบออกมาดีกว่าคาด

2.) ติดตาม มุน ซึงฮยอน เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ น.ประยุทธ์ เวลา 09.30 น.

3.) รอติดตามการประชุม สธ. เตรียมชง ศบค. วันที่ 22 เม.ย. ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมให้ ศก.เดินได้ ขณะที่มีแผนให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ในวันที่ 1 กรกฎาคม คาดเป็น Sentiemnt บวกต่อตลาดหุ้นไทย และหุ้นเปิดเมือง ทั้งสายการบิน ท่องเที่ยว โรงแรม นิคมฯลฯ

4.) กระแสข่าว รัฐบาลกำลังพิจารณากู้เงินเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากวงเงินที่เหลืออีก 1.3 ล้านล้านบาท ภายใต้กรอบเพดานหนี้ที่ 70% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ KS ประเมิน impact เบื้องต้นดังนี้ 4.1) การก่อหนี้สาธารณะเพิ่มเติม จะเป็นแรงกดดันให้ BY ปรับเพิ่มขึ้น(supply bond มากขึ้น) และทำให้เงินบาท ล่าสุด 33.8 บาท มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ โดยยังมีปัจจัยหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้น จากแนวโน้ม Dollar Index ที่แข็งค่าในรอบ 2 ปียืนเหนือ 100 จุด และธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือคงไว้ที่เดิม 0.5% มองเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก (ASIAN SAPPE) 4.2) การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ได้แก่ โครงการคนละครึ่งเฟส 5 (เป็นบวกกับ TNP แต่เป็นลบกับ CPALL) และโครงการเที่ยวด้วยกัน (เป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว และขนส่ง) 4.3) การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน (จะเป็นบวกกับกลุ่มรับหมา รถไฟฟ้า และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น TFFIF)

กลยุทธ์การลงทุน : KS ยังคงคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำ ”ชะลอการลงทุน” ส่วนผู้รับความเสี่ยงสูง ยังแนะนำ “เก็งกำไร Trading” กลุ่มส่งออก (ASIAN, SAPPE) จากแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่า, กลุ่มที่ได้กระแสบวกจากการเปิดเมือง แนะนำ (BEM, CPN, MINT, CENTEL, AMATA ) ส่วนผู้ลงทุนระยะกลาง แนะนำหากราคาหุ้นที่อ่อนตัวแนะนำสะสม กลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, HENG,MICRO) กลุ่มค้าปลีก (DOHOME ) หนุนจากรายได้เกษตรกรที่สูงขึ้น ตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวสูง ,กลุ่มการแพทย์ (BH, BDMS) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GUNKUL) กลุ่ม ICT (DTAC, TRUE) กลุ่มที่ยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงลงทุนเข้าลงทุนคือ กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเลี่ยงหุ้นที่ราคาอยู่โซนบนและมีค่า P/E สูงเนื่องดอกเบี้ยขาขึ้น

มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1675-1690 หุ้นแนะนำ AMATA

Top pick :

AMATA(ราคาพื้นฐาน 27.0 บาท) ระยะสั้นกระแสบวกจากการเปิดประเทศ และมีความคืบหน้าเชิงบวกของนิคมฯ ใหม่ในเวียดนาม มองเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งต่อที่ดินในนิคมฯ ขณะที่ อมตะ ซิตี ลองถั่น พร้อมขาย เรามองเห็นความสำเร็จของธุรกรรมการขาย RBF จำนวน 25 หลังในเวียดนามและการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบางส่วนจาก backlog ของนิคมฯ ในไทยที่ 3.1 พันลบ. จะหนุนกำไรในไตรมาส 1/2565 ให้โต YoY ทั้งนี้ AMATA และ AMATAV ยังไม่เห็นการชะลอตัวของความต้องการการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน นอกจากผลกระทบเล็กน้อยจากต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพฤหัสฯ ติดตาม ถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell ตัวเลข Philadelphia Fed manufacturing index เดือน เม.ย. คาด 20 จุด (ลดลงจากเดือนก่อนที่ 27 จุด) และตัวเลข Initial jobless claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด +1.75 แสนคน (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.85 แสนคน)

วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นเดือน มี.ค. คาด +0.6% MoM และ +1.1% YoY ตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI Flash ของญี่ปุ่น เดือน เม.ย. คาด 53 จุด (-1.9% MoM) และถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde

- Advertisement -